นักแสดงหนุ่มมากความสามารถ ที่นับว่าเป็นเจ้าพ่อหนังรอม-คอม ได้คนหนึ่ง Matthew McConaughey ซึ่งตัดสินใจหันหลังให้กับฮอลลีวู๊ด และย้ายครอบครัวไปอยู่เท็กซัส ได้เผยในรายการพอร์ดแคส 'Good Trouble' เกี่ยวกับจุดยืนของเขาในฐานะนักแสดว่า แม้ตนเองจะประสบความสำเร็จในหนังแนวรอม-คอมมาก แต่ได้ปฏิญาณกับตัวเองและภรรยา เอาไว้ว่า "จะไม่ย้ายกลับฮอลลีวู๊ด นอกจากว่าจะได้รับข้อเสนอให้เล่นในบทบาทอื่นที่ไม่ใช่แนวโรแมนติก - คอมเมดี้"

"ตอนที่ผมเล่นหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ และผมถูกเรียกว่า 'rom-com dude' นั่นมันคือทางของผมครับ และผมก็ชอบมัน ผมเล่นหนังแนวนี้ได้ดีมากจนไม่ว่าอะไรก็ตามนอกเหนือจากนั้น ไม่ว่าจะเป็นหนังดราม่าหรืออะไรก็ตามที่ผมอยากทำ คนก็มักจะเป็นแบบว่า ‘ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่เอา แม็คคอนาเฮย์’ ฮอลลีวูดผมบอกว่า ‘ไม่ ไม่ ไม่ คุณควรอยู่ที่นั่นต่อ (แนวรอม-คอม)’ ดังนั้นเมื่อผมทำในสิ่งที่ต้องการไม่ได้ ผมก็เลยหยุดทำสิ่งที่ทำอยู่ และย้ายไปที่ฟาร์มในเท็กซัสครับ”

นักแสดงหนุ่มยอมรับว่าการออกจากฮอลลีวู๊ด เป็นเรื่อง 'น่ากลัว' สำหรับเขา และตอนย้ายมาเท็กซัสก็เคยคิดหาอาชีพใหม่ๆทำ เคยคิดว่าจะไปเป็นครู ไปเรียนเป็นคอนดักเตอร์ หรือไปเป็นไกด์นำเที่ยวชมป่า

"วันเวลาแต่ละวันช่างยาวนาน — ความรู้สึกเหมือนผมไร้ความหมาย แต่ผมตัดสินใจแล้วว่า นั่นคือสิ่งที่ผมต้องทำ ดังนั้นผมจะไม่ดึงร่มชูชีพและออกจากภารกิจที่กำลังทำอยู่ แต่ว่ามันน่ากลัว เพราะผมไม่รู้ว่าตัวเองจะออกจากทะเลทรายแห่งนี้ได้หรือเปล่า” 

McConaughey ยืนหยัดถึงขั้นที่เงินจำนวนมหาศาลก็ทำให้เขากลับไปไม่ได้ โดยเขาเปิดเผยใน memoir ของเขาในปี 2020 ว่า เขาเคยได้รับข้อเสนอ 14.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 496 ล้านบาท เพื่อให้กลับไปแสดงแนวโรแมนติกคอมเมดี้ในภาพยนตร์เรื่องใหม่ แต่เขาปฏิเสธเงินก้อนนั้นเพราะไม่อยากกลับไปอยู่ในกรอบเดิมๆ

ทั้งนี้ภาพยนตร์แนวรอม-คอมที่ McConaughey ประสบความสำเร็จเสมอ ไม่ว่าจะเป็น “The Wedding Planner,” “How to Lose a Guy in 10 Days,” “Failure To Launch,” “Fool’s Gold” และ “Ghosts of Girlfriends Past” ซึ่งทุกเรื่องต่างก็ทำรายได้ทะลุหรือเกือบถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐที่บ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก

ที่มา Variety