โดยเพลงนี้พรีเมียร์ครั้งแรกบนคลื่นวิทยุที่อเมริกาและปล่อยดิจิตอลดาวน์โหลดบน iTunes ในวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา ในเมืองไทยมีกำหนดปล่อยวิทยุ วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน นี้
Maroon 5 ยังได้เชิญชวนให้แฟนๆทั่วโลก ร่วมโพสภาพ Maroon5 จากอดีตถึงปัจจุบัน ลงใน Instagram แล้วแฮชเทค #WeAreMaroon สำหรับแฟนๆชาวไทยสามารถร่วมสนุกได้และเพิ่มแฮชแทค #MaroonTH เพื่อบ่งบอกความเป็นแฟนของ Maroon 5 ตัวจริงได้เลย
V อัลบั้มใหม่ของ Maroon 5 ได้อัดที่ LA มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ในการทำอัลบั้มนี้ พวกเขาได้ทำงานร่วมกับโปรดิวเซอร์มากมายอย่าง Max Martin, Benny Blanco, Ryan Tedder, Shellback และ Sam Martin และมือคีย์บอร์ดของวง Jesse Carmichael ก็ได้กลับมาทำงานด้วยกันอีกครั้งหลังจากที่เขาหยุดพักไประหว่างการทำอัลบั้ม Overexposed เมื่อปี 2012 งานนี้เรียกว่าเซอร์ไพรส์แฟนเพลงของพวกเขาสุดๆ
Best New Artist คือรางวัล GRAMMY รางวัลแรกที่ Maroon 5 ได้เมื่อปี 2005 ต่อมาพวกเขาได้ทำยอดขายกว่า 17ล้านอัลบั้มทั่วโลก เพลงของพวกเขาได้ทำยอดขายระดับ gold และ platinum มากกว่า 35 ประเทศ Maroon 5 ได้การตอบรับอย่างดีจากแฟนเพลงและนักวิจารณ์ในฐานะวงดนตรีที่ผสมผสานดนตรีร็อคและ R&B เข้าไว้ด้วยกัน อย่างที่พวกเขาได้ทำให้ทุกคนได้รู้จักกันในอัลบั้มเดบิวท์ Song About Jane และ อัลบั้มยอดขายระดับ double platinum It Wont be Soon Before Long ที่มีเพลงฮิตอย่าง Makes Me Wonder และ If I Never See Your Face Again ในปี 2010 Maroon 5 ได้ปล่อยอัลบั้มที่ 3 Hands All Over ที่เป็นอัลบั้ม platinum และมีซิงเกิ้ลดังอย่าง Misery เพลงฮิตติดหู Moves Like Jagger ที่ได้ขึ้นไปอยู่อันดับ1 บนชาร์ทเพลง top 40, hot AC, Billboard Hot 100 ซิงเกิ้ลนี้ได้กลายเป็นซิงเกิ้ลที่ขายดีอันดับหนึ่งตลอดกาล และ Misery และ Moves Like Jagger ได้รับเสนอเข้าชิงรางวัล GRAMMY ทั้งสองซิงเกิ้ล
อัลบั้มล่าสุด Overexposed ได้ทำให้พวกเขาได้ก้าวมาเป็นวงที่มีอิทธิพลวงหนึ่งในวงการเพลงป๊อปได้อย่างรวดเร็ว และนอกจากนี้ทุกซิงเกิ้ลจากอัลบั้ม Overexposed ยังสามารถทะยานขึ้นสู่อันดับที่หนึ่งได้ทุกเพลงอีกด้วย Daylight ซิงเกิ้ลที่สามจากอัลบั้มนี้ได้ขึ้นเป็นอันดับที่หนึ่งในชาร์ท Top 40 และ Hot AC Maroon 5 ได้ทำสถิติเป็นวงที่ทำเพลงครองอันดับ 1 ได้นานที่สุดในรอบ 20 ปี ของชาร์ท Top 40 ซึ่งนานถึง 6 สัปดาห์ และย้อนไปเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ปี 2012 Maroon 5 ได้มาเล่นคอนเสิร์ตในเมืองไทย เพื่อเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของอัลบั้ม Overexposed ที่มีเพลงฮิตอันดับ 1 อย่าง One More Night และ Payphone และมียอดขายได้ในระดับ GOLD ทั่วเอเชียอีกด้วย