listen live


NEXT :
PREV :
/ NEWS /

พูดคุยกับ Paul Klein นักร้องนำ LANY วงทรีโออินดี้ป็อบมาแรงแห่งยุค ต้อนรับการกลับมาอีกครั้งด้วยอัลบั้มล่าสุด 'mama's boy'

Oct 06, 2020 / ดู 2,343 ครั้ง

Paul Klein นักร้องนำแห่งวงทรีโออินดี้ป็อบอเมริกันขวัญใจชาวไทยอย่าง LANY ได้มาพูดคุยเกี่ยวกับสตูดิโออัลบั้มลำดับที่สาม ‘mama’s boy’ ที่เพิ่งถูกเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันศุกร์ที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ผ่าน Exclusive Group Interview กับสื่อดนตรีในประเทศไทย พร้อมเปิดเผยเรื่องราวต่างๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เพื่อให้แฟนๆ ได้ดื่มด่ำกับผลงานชิ้นล่าสุดของพวกเขาอย่างเต็มอรรถรสมากขึ้น หลังจากที่วงกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากสไตล์ดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์ และมีกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากคอเพลงอินดี้ชาวไทย ในทุกๆ ครั้ง ที่พวกเขาเดินทางมาเปิดคอนเสิร์ต โดย Klein เริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงความแตกต่างระหว่าง ‘mama’s boy’ และอัลบั้มก่อนหน้า ‘Malibu Nights’ ในปี 2018 ว่า

“‘Malibu Nights’ เป็นอัลบั้มที่พูดถึงการเลิกราครับ มีเพลงทั้งหมด 9 เพลงเกี่ยวกับการเลิกรากับคนรัก และมันก็เจ๋งมาก ทุกคนต่างชื่นชอบมัน แต่สำหรับ ‘mama’s boy’ นั้น มีเพลงทั้งหมด 14 เพลง เกี่ยวกับ 14 ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ใน ‘Malibu Nights’ มันมีความเปราะบางและความตรงไปตรงมาที่น่าทึ่ง และผมรู้ว่าผมต้องการที่จะนำสิ่งนี้มาปรับให้เข้ากับ ‘mama’s boy’ แต่ผมก็อยากที่จะทำมันนอกเหนือจากแนวอกหักด้วย”
 


“ดังนั้น ‘mama’s boy’ จึงเป็นอัลบั้มที่เปราะบางในแง่ของการสะท้อนตัวเอง มันคือการที่ตัวผมที่กำลังมองไปในกระจก หรือมองสถานการณ์และเขียนมันออกมาเป็นเพลง และผมก็มั่นใจมากๆ มีอย่างน้อยหนึ่งเพลงในอัลบั้มนี้ ที่เป็นเพลงสำหรับทุกคนบนโลกครับ”

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงผ่านกาลเวลาในแง่ของความความสัมพันธ์ และวิธีการที่วงนำมาถ่ายทอดผ่านอัลบั้มของพวกเขา Klein เปิดเผยว่า “เราพยายามที่จะดีขึ้นในทุกๆ วัน เราไม่เคยต้องการที่จะทำอัลบั้มแบบเดียวกันซ้ำสองครับ ผมคิดว่าเราได้รวมองค์ประกอบใหม่ๆ ไว้ในอัลบั้มนี้ในแบบที่เราไม่เคยทำมาก่อน ตั้งแต่การใช้กีตาร์อะคูสติก ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีพื้นฐานที่สำคัญมาก แต่เราไม่เคยใช้มันในเพลงของ LANY มาก่อน มันถูกใช้ตลอดทั้งอัลบั้ม ‘mama’s boy’ เลย รวมถึงเครื่องดนตรีต่างๆ เช่นเชลโล ฟลูเกลฮอร์น กีตาร์สไลด์ ออร์แกน และการร้องประสานเสียง ทั้งหมดนี้เป็นองค์ประกอบและเครื่องดนตรีที่เราไม่เคยใช้มาก่อนจริงๆ และผมคิดว่ามันจะสร้างความแตกต่างครั้งใหญ่ให้กับอัลบั้มนี้ครับ”

สำหรับจุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจหลักที่อยู่เบื้องหลังการแต่งเพลงในอัลบั้ม ‘mama’s boy’ นั้น Klein เล่าว่าหลังจากที่วงออกทัวร์คอนเสิร์ตกว่าร้อยรอบในหลายประเทศทั่วโลกเมื่อปีก่อน พวกเขาก็ตรงไปที่สตูดิโอและเริ่มแต่งเพลงในอัลบั้มนี้ทันที
 


“ผมเป็นคนชอบจดบันทึกอารมณ์และประสบการณ์ต่างๆ ไว้ในโทรศัพท์ของผมอยู่ตลอดเวลา เพราะผมรู้ว่าผมต้องมีเนื้อหาและธีมบางอย่าง รวมถึงชื่อเพลงและสิ่งผมที่ฉันอยากเขียนถึง ยกตัวอย่างเช่นเพลง ‘if this is the last time’ ที่ไอเดียเกิดขึ้นระหว่างการนั่งเครื่องบินจากเซี่ยงไฮ้ไปปักกิ่ง และผมเริ่มครุ่นคิดว่า แม้ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวของผมจะมีสุขภาพที่ดี แต่กับคนบางคน หรือญาติบางคนที่เริ่มแก่ตัวลง และผมไม่ได้พบเจอพวกเขาบ่อยนัก ครั้งต่อไปที่ผมได้เจอพวกเขาอาจเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้ นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อเพลงนี้ เพราะผมมักจะจดสิ่งเหล่านี้ไว้เสมอ เมื่อรู้ว่าผมอยากจะเขียนถึงมันเวลากลับไปบ้านครับ”
 


และเมื่อให้เลือกเพลงที่เศร้าที่สุดในอัลบั้ม Klein ตอบว่าแม้ทุกเพลงจะถูกแต่งขึ้นในปี 2019 แต่พวกเขาก็มีความคิดว่าปี 2020 อาจจะไม่ใช่ปีที่ดีนัก “ผมรู้สึกมีความสุขมากๆ และช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่ไม่ได้มีเพลงเศร้ามากมายขนาดนั้นใน ‘mama’s boy’ นี่จึงเป็นอัลบั้มที่ฟิลกู๊ดและส่งผลดีต่อสุขภาพในตอนนี้เป็นอย่างยิ่งครับ” เขากล่าว

“ถ้าผมต้องเลือกเพลงที่เศร้าที่สุดในอัลบั้ม ก็คงจะเป็น ‘paper’ ซึ่งพูดถึงการที่คุณดูปกติดีในสายตาใครบางคน แต่ในความเป็นจริงมันทั้งดูแย่และแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ผมจึงคิดว่ามันเป็นเพลงที่เศร้าที่สุดในอัลบั้มครับ แต่โดยรวมแล้ว ‘mama’s boy’ เป็นอัลบั้มที่เปี่ยมความหวัง และให้ความรู้สึกที่ดีมากๆ”
 


ในขณะที่แทร็กเปิดอัลบั้มอย่าง “you!” เขาได้พูดถึงความเป็นมาของเพลงนี้ว่า “การแต่งเพลงของผมก่อนหน้านี้ ผมจะมีความเฉพาะเจาะจงและใส่ใจในรายละเอียดมากๆ ผมสามารถวาดออกมาเป็นรูปภาพได้เลย ตั้งแต่ฉาก ช่วงเวลา สถานที่ ตัวบุคคล หรืออะไรก็ช่าง แต่ผมอยากจะลองแต่งเพลงรักที่มีความเป็นสากลและมีความคลุมเครือเล็กน้อย เพื่อให้มันเป็นเพลงเกี่ยวกับใครก็ได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผมไม่ได้แสดงคุณสมบัติทางกายภาพใดๆ อย่างเช่น ‘ผมรักสีดวงตาของคุณนะ’ หรือ ‘เวลาที่เส้นผมหล่นมาบังใบหน้าของคุณ’ ผมต้องการให้มันเกี่ยวกับใครก็ได้ และนั่นก็คือเป้าหมายของผมในการแต่งเพลงนี้ครับ”






.:: ข่าวอื่นๆ