รอบปีที่ผ่านมา ทั่วโลกพบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายประเทศเร่งพัฒนาวัคซีนขึ้นมา เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด จนกระทั่งช่วงเดือนที่ผ่านมาได้มีวัคซีนที่พร้อมฉีดให้กับประชาชน และเริ่มฉีดไปแล้วทั่วโลก

 

โดยมีผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 1.9 ล้านคน ในสหรัฐ / 6 แสนคน ในสหราชอาณาจักร / 4.4 แสนคน ในรัสเซีย / 1 ล้านคน ในจีน และประเทศอื่น ๆ รวมแล้วอย่างน้อย 5 ล้านคนทั่วโลก แม้จะมีประชากรบางส่วนในกลุ่มนี้มีอาการแพ้คิดเป็น อัตราส่วน 1 ต่อ 250,000 คน แต่ก็เป็นเรื่องปกติของการฉีดวัคซีน

 

ขณะที่วัคซีนไทยจำนวน 7 แพลตฟอร์ม กว่า 20 ชนิด มี 3 ชนิดที่กำลังจะเริ่มทดสอบในมนุษย์ โดยเฉพาะชนิด mRna หรือชนิดไวรัสเป็นพาหะ ของศูนย์วิจัยและพัฒนาวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งขณะนี้ติดปัญหา ต้องเลื่อนทดสอบจากช่วงต้นปี 2564 เป็นช่วงเดือนพฤษภาคม 

 

โดยจะเริ่มการทดสอบกับมนุษย์ ในระยะแรกเดือนมิถุนายน ระยะที่ 2 เดือนกรกฎาคม ก่อนจะรู้ประสิทธิผลในช่วงเดือนกันยายน ว่าจะผ่านเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกหรือไม่ ซึ่งในระยะสุดท้ายคือระยะที่ 3 จำเป็นต้องใช้ทุนวิจัยและกลุ่มตัวอย่างมากขึ้น แต่ก็จะมีการประเมินอีกครั้ง หากสำเร็จจะผลิตให้ได้ 5 ล้านโดส ในปี 2564 และอีก 20 ล้านโดส ในปี 2565

 

อย่างไรก็ตาม ไทยมีหวังที่จะได้รับวัคซีนเข็มแรกเร็วสุดในช่วงกลางปีหน้านี้ หลังรัฐบาลได้ลงนามจัดซื้อวัคซีนจากแอสตร้าเซเนก้า จำนวน 26 ล้านโดส ให้กับประชากร 13 ล้านคนแรก ซึ่งต้องรอการติดตามประสิทธิผลจากฝั่งอังกฤษอีกครั้ง 

 

ทั้งนี้ แพทย์มองว่าโควิด-19 จะยังอยู่กับเราไปอีกอย่างน้อย 2 ปี แม้ประชากรโลกจะได้รับวัคซีนครบทุกคนก็ตาม