“In Da Getto” โปรดิวซ์โดย “Skrillex” และ “Tainy” ซึ่งเป็นเพลงที่เหมาะกับฤดูร้อนอย่างสมบูรณ์แบบ และในเพลงนี้ยังมีองค์ประกอบของดนตรีในยุค 90 อยู่ในเพลงอีกด้วย ซึ่งคล้ายกับผลงานของ David Morales และ The Bad Yard Club ที่มี Crystal Waters และ Delta มาร่วมด้วย ซึ่งผลงานต้นฉบับของ Morales นั้น คือเอกลักษณ์ของคลับใน New York สมัยยุค 90 ซึ่ง J Balvin, Skrillex และ Tainy ได้เรียบเรียงมันออกมาใหม่ในรูปแบบของพวกเขา เพื่อที่จะเล่าถึงความคลาสสิคของ ฤดูร้อนในมุมใหม่ให้มัน และสนุกกว่าเดิม
และผลงานครั้งนี้ได้สร้างโมเมนตั้มให้กับ #TiempoDeBalvin จากผลงานเพลง Remix อย่าง “Poblado” โดย Crissin, Totoy El Frio, Natan Y Shander กับ Karol G และ Nicky Jam ซึ่งเป็นเพลงที่เขาได้ร่วมมือกับศิลปินชาว Puerto Rico อย่าง Jay Wheeler ในเพลง “Otro Fili” และเพลง “Que Mas Pues?” ที่ร่วมมือกับศิลปินชาวอาเจนตินา อย่าง Maria Becerra ทำให้ยอดสตรีมยังเติบโตอย่างต่อเนื่องในชาร์ต Top 12 ของ Spotify’s Global หลังจากที่ได้อันดับ 1 บน Spotify's Global Song Debuts ในช่วงเปิดตัว ซึ่งผลลัพธ์นี้แสดงให้เห็นว่า “J Balvin” มีความสามารถที่จะครองอันดับมากกว่าศิลปินลาตินทุกคนได้
การเปิดตัวเพลงนี้เป็นไปตามการเสนอชื่อครั้งที่ 11 ของ Balvin ที่ Premios Juventud ในปีนี้ และถือได้ว่าเป็นชัยชนะที่เขาได้ในสาขาเพลง Latin Pop/Reggaeton Artist of the Year ในรายการ iHeartRadio Music Awards และการเสนอชื่อเข้าชิงครั้งที่ 4 ในปีนี้ของรายการ MTV MIAW Awards และการที่มีผลงานถึง 2 ชิ้นที่อยู่บนชาร์ต Spotify’s Top Global Songs อีกทั้งเพลง "Que Más Pues" ของเขายังเป็นเพลงที่มียอดสร้างสรรค์วิดีโอบน TikTok สูงมากที่สุดของ Latin America และยังมีเพลง “Poblado Remix” ที่เปิดตัวในอันดับที่ 11 บนชาร์ต Billboard’s Hot Latin Songs และเขายังได้เป็น headliner ให้กับ New York City's Governor's Ball ในเดือนกันยายนนี้ด้วย