สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศิลปินหนุ่มน้อยชื่อดังชาวแคนาดา จัสติน บีเบอร์ ได้เอ่ยปากว่า เขารู้สึกเบื่อหน่ายกับการถูกจับจ้องจากบรรดาสื่อมวลชน และกล้องของปาปารัสซี รวมถึงโดนจับผิดอยู่ตลอดเวลาจากกลุ่มคนที่จงเกลียดจงชังในตัวเขา ถึงขั้นที่ บีเบอร์ ยอมรับว่าเริ่มคิดถึงการลาวงการไปชั่วคราว เพื่อใช้เวลา "ทบทวน" ถึงชีวิตของตัวเองเสียที
"เรื่องเข้าใจผิดใหญ่หลวงที่สุดเกี่ยวกับตัวผมก็คือ ความคิดที่ว่าผมเป็นคนเลว" บีเบอร์ กล่าวในบทสัมภาษณ์กับ US Weekly "เซ็งกับเรื่องนี้มาก ผมเป็นคนใจกว้าง อยากจะเป็นแบบอย่างที่ดี แต่บางคนกลับอยากให้ผมพลาด ผมยังเด็ก และทำเรื่องผิดพลาดไปบ้าง นี่คือช่วงเวลาของการเติบโต ซึ่งผมอาจจะทำพังบ้างในบางครั้ง"
อย่างไรก็ตาม บีเบอร์ ไม่ลืมที่จะพูดถึงเหล่า "บีลีฟเลอร์ส" สาวกที่ติดตามและให้กำลังใจเขามาตลอด ศิลปินชื่อดังยอมรับว่าเพราะแฟนๆ นี่เองที่ทำให้เขาตัดสินใจขึ้นแสดงที่ลอนดอนต่อ แม้จะมีอาการเป็นลมบนเวที ก็เพราะไม่อยากจะทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง "ผมเป็นลมเพราะป่วย แต่สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือผมกำลังจะทำให้แฟนๆ ผิดหวัง จากการเล่นคอนเสิร์ตไปได้แค่ 5 เพลงแล้วเลิก หลังได้รับออกซิเจน ผมเลยตัดสินใจที่จะเล่นโชว์ต่อให้จบ แล้วค่อยไปโรงพยาบาล การแสดงต้องดำเนินต่อไป"
แต่ถึงแฟนๆ จะสำคัญกับเขามาก แต่ บีเบอร์ ก็ยอมรับว่าถึงตอนนี้ตนเองเริ่มคิดถึงเรื่องการหยุดพักจากการทำงาน เพื่อไปใช้ชีวิตให้ห่างไกลจากสื่อ และการถูกจับตามองอยู่เหมือนกัน "คุณควบคุมมันไม่ได้หรอก ผมอยากจะหลบหน้าไปจากกล้องบ้าง บีเบอร์ เปรยถึงการใช้ชีวิตที่มีบรรดาสื่อมวลชนตามไปด้วยทุกที่ ถึงขั้นที่ครั้งหนึ่งเขาเคยหยิบเอาหน้ากากกันแก๊สมาใส่ประชดเลยทีเดียว
"เพื่อนๆ ผมคิดว่ามันตลกดี พวกเราชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ผมรู้ว่าผมเป็นใคร และจะไม่ปล่อยให้เรื่องลบพวกนี้มาทำให้ผมต้องแย่ ผมเป็นคนที่มองทุกอย่างในแง่บวก วางแผนที่จะไปให้พ้นๆ จากทั้งหมดนี้เหมือนกัน ... วงการนี้ทำลายคุณได้ แต่ผมมีทีมงานที่ยอดเยี่ยมอยู่รอบตัว มีครอบครัว และแฟนๆ ความรักเอาชนะเรื่องแย่ๆ พวกนี้ได้ ผมไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่กำลังเติบโตขึ้น และพยายามทำตัวให้ดีขึ้นในทุกๆ วัน นี่แหละชีวิต ผมคิดถึงอัลบั้มใหม่, ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งต่อไป หรืออาจจะขอลาวงการไปซักพัก ... กำลังคิดดูว่าจะเอายังไง นี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณควรจะทำเมื่ออายุ 19 เหรอ".