listen live


NEXT :
PREV :
/ NEWS /

Exclusive Interview with Charlie Puth นักร้อง-นักแต่งเพลงหนุ่มสุดฮอตแห่งยุค ต้อนรับอัลบั้มใหม่ในรอบ 4 ปี

Feb 17, 2022 / ดู 1,987 ครั้ง

Eazy FM 105.5 ได้มีโอกาสพูดคุยกับนักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดังระดับโลก Charlie Puth ในการสัมภาษณ์แบบ Exclusive ผ่าน Zoom เกี่ยวกับซิงเกิ้ลใหม่ของเขาที่เพิ่งปล่อยไปไม่นานนี้อย่าง “Light Switch” และอัลบั้มล่าสุด ‘Charlie’ ที่มีกำหนดปล่อยในปีนี้ รวมถึงเบื้องหลังการทำอัลบั้ม ผลกระทบจากโควิด และอีกมากมาย

โดย Charlie Puth เริ่มต้นเส้นทางศิลปินในปี 2009 กับการตั้งช่อง YouTube ของเขาว่า ‘Charlies Vlogs’ (ปัจจุบันไม่มีช่องนี้แล้ว เหลือเพียงผลงานเก่า) เขาเก็บเกี่ยวประสบการณ์อยู่สักพักหนึ่งจนกระทั่งปี 2015 ที่ได้เซ็นสัญญากับ APG/Atlantic เขาได้ปล่อยเพลงอย่าง “Marvin Gaye” ที่ปัจจุบันมีคนดูในยูทูปกว่า 679 ล้านครั้ง และ “See You Again” ร่วมกับ Wiz Khalifa เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับนักแสดงหลักของภาพยนตร์ตระกูล Fast and Furious อย่าง Paul Walker มีคนดูมากกว่า 5.3 พันล้านครั้ง
 


หลังจากนั้นชีวิตศิลปินจาก New Jersey คนนี้ก็มีแต่ขึ้นกับขึ้นมาเรื่อย ๆ เขามีอัลบั้มเป็นของตัวเองอย่าง ‘Nine Track Mind’ (2016) ต่อด้วย ‘Voicenotes’ (2018) ที่ซิงเกิ้ลนำอย่าง “Attention” มียอดวิวกว่า 1.3 พันล้านครั้ง และอัลบั้มล่าสุดที่กำลังจะถูกปล่อยในปีนี้อย่าง ‘Charlie’ เป็นเครื่องบ่งบอกถึงความสำเร็จอย่างดี

และเพื่อต้อนรับการกลับมาในอัลบั้มใหม่ที่จะถึงนี้ ด้วยซิงเกิ้ลแรกอย่าง “Light Switch” นั้น เราได้คุยกับเขาเกี่ยวกับเพลง ความคืบหน้าของอัลบั้ม และเรื่องต่าง ๆ อีกมากมาย สามารถอ่านบทสัมภาษณ์เต็ม ๆ ได้ข้างล่างนี้:
 


Eazy FM: เล่าให้เราฟังหน่อยได้ไหมถึงเบื้องหลังและแรงบันดาลใจของเพลง “Light Switch”?

Charlie Puth: เพลงนี้เกิดขึ้นมาจากผมที่รู้สึกอยากทำคลิปลงติ๊กต็อกตอนผมกำลังทำเพลงครับ เพราะผมรู้สึกว่าคนไม่ค่อยอยากจะเชื่อว่าผมกำลังทำเพลงอยู่ซักเท่าไหร่ ผมเลยลองเริ่มอัดคลิปตัวเองตอนกำลังทำเพลง ในตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดว่ามันจะต้องเป็นรูปเป็นร่างหรอกครับ แค่เริ่มอัดคลิปแนวจะเป็นยังไงถ้าเพลงเริ่มด้วยเมโลดี้ บุพ บุพ บุ้พ บุพ บุพ บุ้พ ที่ผมอัดจากคีย์บอร์ดตัวนี้แหละครับ แต่ไป ๆ มา ๆ มันดันได้ขึ้นมาซะงั้น ผมเลยใส่เบสเข้าไป กลายเป็นว่ามันดีมากจนรู้ตัวอีกทีผมก็เห็นตัวเองในติ๊กต็อกกำลังคลั่ง เพราะมันกลายเป็นเพลงที่ดีเฉยเลย ผมคลั่งไปเลย แบบคลั่งจริง ๆ แล้วผมก็ลองทำเพลงแบบคร่าวๆให้เพื่อนผมฟัง แล้วทุกคนชอบมาก แบบไม่เคยฟังไหนมาก่อน ทุกคนบอกผมว่าผมต้องทำเพลงนี้ให้เสร็จ ผมก้เลยทำจนเสร็จครับ สิ่งที่ดีที่สุดคือเหมือนแฟน ๆ อยู่กับผมมาตั้งแต่เริ่มเขียนเพลงจนจบ มันเลยเหมือนเป็นเพลงที่เราแต่งขึ้นมาด้วยกันครับ

Eazy FM: เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมว่าเพลงในเวอร์ชั่นแรกกับเวอร์ชั่นตอนนี้ต่างกันยังไง?

Charlie Puth: ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนมากมายครับ ผมแค่เอามามิกซ์แล้วก็ทำมาสเตอร์เฉยๆครับ อาจจะมีอัดเพิ่มนิดหน่อย อัดในที่นี้ผมหมายถึงอัดเสียงร้องใหม่นะครับ ที่เหลือก็เหมือนที่ทุกคนได้ดูกันในติ๊กต็อกเลยครับ อันเดียวกันเลย

Eazy FM: โซเชี่ยลมีเดียกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดมีผลกระทบกับการทำอัลบั้มใหม่อย่างไรบ้าง?

Charlie Puth: มันทำให้การเขียนเพลงของผมดูมีความเปิดเผยมากขึ้นครับ เพราะชาวเน็ตก็ค่อนข้างเปิดเผย คนออกมาพูดถึงความรู้สึกของตัวเองแบบตรง ๆ และมันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองควรเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น พูดทุกอย่างที่คิด ที่รู้สึกออกไปตรง ๆ แล้วใส่ดนตรีลงไป "Light Switch" เลยเป็นเพลงเดียวในอัลบั้มนี้ที่ผมทำแบบนี้ เพลงอื่นผมก็จะถ่ายทอดความรู้สึกออกมาในแบบที่ต่างกัน

Eazy FM: คำถามต่อมาจากผู้ฟังของเราเอง “จริงไหมครับที่คุณเอาทุกเสียงที่ได้ยินมาแปลเป็นโน้ตดนตรี”?

Charlie Puth: จริงครับ และผมอยากให้ทุกคนลองฟัง “Light Switch” แล้วทำตามแบบผมดูด้วย เพราะดูสิ ผมทำเพลงนี้จากเสียงเปิดปิดสวิตซ์ไฟจริง ๆ ผมทำได้ คุณก็ทำได้ อาจจะลองทำจากเสี่ยงดีดกระป๋องดูก็ได้นะ แล้วแต่คุณเลย

Eazy FM: นี่ก็ 4 ปีแล้วหลังจากที่คุณปล่อยอัลบั้มล่าสุด ‘Voicenotes’ ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าแฟน ๆ สามารถคาดหวังอะไรได้บ้างจากอัลบั้มถัดไป?

Charlie Puth: ก็ต้องเป็นเพลงที่ผมเปิดเผยมากที่สุดแหละครับ เอาจริง ๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรขนาดนั้น ผมก็แค่ไม่เคยทำเพลงที่เปิดเผยมากขนาดนี้มาก่อน มันค่อนข้างเป็นสิ่งแปลกใหม่มากสำหรับผม จนผมยังแอบกลัวการที่คนจะรู้กี่ยวกับตัวผมมากขนาดนี้ แต่ผมก็แอบที่จะได้ไม่ต้องคอยใส่หน้ากากอีกแล้ว

Eazy FM: จากมิวสิควิดีโอเพลง “Light Switch” ดูจะเน้นเรื่องการดูแลตัวเองและรักตัวเองใช่ไหม คุณมีคำแนะนำอะไรบ้างสำหรับคนที่อาจจะกำลังเจอความลำบากอยู่ทั้งทางกายและใจ?

Charlie Puth: สำหรับทางใจ ผมว่าลองหาอะไรทำเป็นศิลปะครับ ในช่วงนึงผมก็เคยต้องเจอกับเรื่องแย่ครับ อาจจะเป็นแค่ที่ที่ผมเคยอยู่เขาไม่เห็นค่าของศิลปะครับ ซึ่งจริง ๆ แล้วศิลปะคือสิ่งที่จำเป็นที่สุด มันช่วยพัฒนาได้ทุกอย่างในชีวิตจริงๆ ถ้าคุณเศร้าลองวาดรูปดูครับ ลองวาดอะไรที่สื่อถึงตัวคุณและความรู้สึกของคุณดูครับ หรี่อลองเขียนดูก็ได้ครับ เขียนด้วยลายมีคุณเองเลย มันสนุกดีนะครับและก็เป็นศิลปะด้วย ผมรู้สึกว่าศิลปะช่วยผมได้ มันก็น่าจะช่วยคนอื่นได้เหมือนกัน

Eazy FM: ถ้าอัลบั้มใหม่ชื่อ ‘Charlie’ ต้องเอามาทำหนัง ใครจะแสดงเป็นคุณในหนัง?

Charlie Puth: ต้องเป็นตัวผมเองอยู่แล้วครับ ผมเพิ่งรู้ไม่นานนี่เองว่ามีผมคนเดียวที่มีผมแบบนี้ ดูสิไม่มีผมของใครเป็นแบบนี้เหมือนผมแล้ว มีผมคนเดียวที่จะรับบทเป็นตัวผมได้ ผมใช้เวลาอยู่ 6 ปีกว่าจะรู้ว่าไม่มีใครกำหนดผมได้ ขอให้เป็นบทเรียนให้ทุกคนนะครับ

Eazy FM: ศิลปินหลายคนตั้งชื่ออัลบั้มแรกเป็นชื่อตัวเอง แต่คุณเพิ่งจะใช้ชื่อตัวเองในอัลบั้มนี้ อะไรทำให้คุณใช้เวลาหลายปีถึงจะใช้ชื่อตัวเองในอัลบั้ม?

Charlie Puth: เอาจริง ๆ ผมอยากใช้ชื่อตัวเองเป็นอัลบั้มนานแล้วครับ แต่เพลงทุกเพลงในอัลบั้มต้องสะท้อนถึงตัวผมเองด้วย เป็นอะไรที่ผมผ่านในชีวิตจริง ๆ ในอัลบั้มก่อน ๆ มีหลายเพลงที่ผมแต่งถึงคนที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตของผม อย่างเพลง “Attention” คือเพลงที่ผมเคยผ่านมาจริง ๆ เพลง “We Don’t Talk Anymore” ก็เป็นเพลงที่แต่งขึ้นจากเรื่องจริงเหมือนกัน ซึ่งสำหรับผมมันน่าตื่นเต้นมากที่คุณจะได้ฟังเพลงในอัลบั้มใหม่ทั้งอัลบั้มที่เหมือน “We Don’t Talk Anymore” กับ “Attention”

Eazy FM: สุดท้ายนี้ ช่วยฝากอะไรถึงแฟน ๆ ชาวไทย ที่กำลังรอเจอคุณขึ้นโชว์อีกครั้งหน่อย

Charlie Puth: สวัสดีครับแฟน ๆ ชาวไทยทุกคนที่รับชมอยู่ทาง Eazy FM 105.5 ผมคิดถึงทุกคนมากครับ ตั้งแต่โชว์ในปี 2018 เป็นการขึ้นโชว์ที่ผมชอบมาก ทุกคนร้องตามผมตลอดทั้งเพลง ผมอยากเจอทุกคนอีกจริง ๆ และผมจะจัดโชว์ให้ใหญ่ขึ้นด้วย ขอบคุณครับ
 


ตอนนี้ซิงเกิ้ล “Light Switch” ของ Charlie Puth ได้ปล่อยออกมาให้ทุกคนฟังแล้วทางแพลตฟอร์มต่าง ๆ รวมถึงทาง Eazy FM 105.5 ด้วย ส่วนอัลบั้ม Self-Titled อย่าง ‘Charlie จะถูกปล่อยออกมาภายในปีนี้อย่างแน่นอน
 






.:: ข่าวอื่นๆ