ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว! สำหรับอีเวนท์อุ่นเครื่องการกลับมาของเทศกาลดนตรีอิเลกทรอนิกส์สุดยิ่งใหญ่ ‘Road to Ultra Thailand’ ในศุกร์วันที่ 22 กันยายน 2023 นี้ ณ BITEC Bangna พร้อมการขนทัพดีเจและโปรดิวเซอร์ตัวท็อประดับโลกมาร่วมสาดความสนุกให้คนรักดนตรีแดนซ์ได้มันส์กันตลอดทั้งวัน ซึ่งในวันนี้ เราจะขอพาทุกคนไปเตรียมความพร้อมด้วยการแนะนำผลงานเด็ดของเหล่าดีเจไลน์อัพที่ไม่ควรพลาด จะมีผลงานชิ้นไหนกันบ้างนั้น ไปติดตามกันเลย

Zedd

เริ่มต้นกันด้วยเฮดไลน์เนอร์คนแรกอย่าง Zedd หรือชื่อจริง Anton Zaslavski ดีเจและโปรดิวเซอร์ชาวเยอรมันสายป็อบแดนซ์ที่หลายคนน่าจะรู้จักกันดี ผ่านซิงเกิ้ลฮิตติดท็อปชาร์ตอย่าง “Stay the Night”, “I Want You to Know”, “Stay” และ “The Middle” รวมทั้งเคยร่วมงานกับศิลปินเบอร์ใหญ่ระดับโลกอีกนับไม่ถ้วน อาทิ Ariana Grande, Lady Gaga, Selena Gomez และ Katy Perry แต่ผลงานที่ส่งให้เขาได้รับการจับตามองจากนักฟังเพลงทั่วโลกคงหนีไม่พ้นซิงเกิ้ลแนวโพรเกรสซีฟเฮาส์อย่าง “Clarity” จากอัลบั้มเดบิวต์ในชื่อเดียวกันเมื่อปี 2012 ที่ได้นักร้องสาวชาวอังกฤษ Foxes มาขับร้องได้อย่างทรงพลัง จนสามารถคว้ารางวัลแกรมมี่ครั้งที่ 56 ในสาขา Best Dance/Electronic Recording มาครองได้สำเร็จ นับเป็นรางวัลแกรมมี่ตัวแรกของทั้งสองอีกด้วย

Gryffin

มาต่อกันด้วยเฮดไลน์เนอร์อีกคนของงานอย่าง Gryffin หรือชื่อจริง Daniel Griffith ดีเจ โปรดิวเซอร์ และนักแต่งเพลงมากประสบการณ์ชาวอเมริกันที่เคยฝากผลงานการโปรดิวซ์ซิงเกิ้ลสุดฮิตมากมาย ทั้ง “Talking Body” ของ Tove Lo, “Animals” ของ Maroon 5 และ “Desire” ของ Years & Years ในขณะที่ผลงานในนามของเขานั้นก็ถือได้ว่าประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน ตั้งแต่ซิงเกิ้ล “Whole Heart”, “Tie Me Down”, “All You Need to Know”, “Body Back” และ “Woke Up in Love” แต่ผลงานที่เรียกได้ว่าเป็นผลงานซิกเนเจอร์ของเขาก็คงต้องยกให้ “OMG” ซิงเกิ้ลจากอัลบั้มเดบิวต์ ‘Gravity’ เมื่อปี 2019 ที่ได้ป็อบสตาร์สาวชาวแคนาเดี้ยนอย่าง Carly Rae Jepsen มารับหน้าที่ขับร้อง ด้วยป็อบบีทสุดติดหู และเสียงร้องใสๆ ที่เข้าถึงง่ายของ Jepsen ก็ทำให้ซิงเกิ้ล “OMG” สามารถทะยานขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ต US Dance Club Songs ของ Billboard ได้สำเร็จ ถือเป็นครั้งแรกของทั้งสองเช่นกัน

Alan Walker

ปิดท้ายเฮดไลน์เนอร์ระดับท็อปของงานกับ Alan Walker ดีเจและโปรดิวเซอร์หนุ่มไฟแรงชาวนอร์เวย์ที่สร้างความคึกคักให้กับวงการอีดีเอ็มช่วงปลายยุค 2010s ได้แบบสุดขีด และมีเพลงที่กวาดยอดวิวบน YouTube ได้มากกว่าพันล้านครั้งได้ถึง 3 เพลง คือ “Faded”, “Alone” และ “The Spectre” ซึ่งซิงเกิ้ล “Faded” จากอัลบั้มเดบิวต์ ‘Different World’ (2015) ก็ถือได้ว่าเป็นผลงานซิกเนเจอร์ที่แจ้งเกิดให้กับเขาในฐานะซูเปอร์สตาร์ดีเจคนใหม่ของซีนได้สำเร็จ ด้วยการทะยานขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตในของนอร์เวย์ ฟินแลนด์ สวีเดน และอีกกว่า 10 ประเทศ รวมถึงอยู่ในห้าอันดับแรกบนชาร์ตของอีกกว่า 25 ประเทศทั่วโลก โดย “Faded” ยังเป็นเพลงที่กวาดยอดสตรีมบน Spotify ได้สูงที่สุดของเขากว่า 1.7 พันล้านสตรีมอีกด้วย

นอกจากสามเฮดไลน์เนอร์สุดปังที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว เทศกาลดนตรี ‘Road to Ultra Thailand’ ยังได้ทัพดีเจคุณภาพมาซัพพอร์ตไลน์อัพอีกคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น Frank Walker, MYKRIS, PIXZY และ Tong Apollo ดีเจทั้ง 7 พร้อมแล้ว คุณล่ะ พร้อมหรือยัง? ที่จะมาแดนซ์กันให้ฟลอร์แหลก แล้วเจอกันศุกร์ที่ 22 กันยายนนี้ ณ BITEC Bangna บัตรใกล้หมดแล้ว อย่ารอช้า ซื้อได้ที่ roadtoultra.com/thailand