เข้าฉายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับสารคดีคอนเสิร์ตแห่งปีที่เหล่าบีไฮฟ์รอคอยอย่าง ‘Renaissance: A Film by Beyoncé’ กับบันทึกการแสดงสุดยิ่งใหญ่ตระการตาจากทัวร์ครั้งล่าสุดของซูเปอร์สตาร์หญิงแถวหน้าชาวอเมริกัน Beyoncé อีกทั้งเธอยังรับหน้าที่เป็นทั้งโปรดิวเซอร์ ผู้เขียนบท และผู้กำกับเองอีกด้วย
ถึงแม้จะเข้าฉายล่าช้ากว่าหลายประเทศทั่วโลก แต่ ‘Renaissance: A Film by Beyoncé’ ก็ถือได้ว่าเป็นสารคดีคอนเสิร์ตที่คุ้มค่าสมการรอคอยอย่างแท้จริง เพราะนอกจากเราจะได้ปลดปล่อยความเป็นอิสระไปกับเสียงดนตรีที่ตราตรึงหัวใจแฟนๆ นับล้านของ Beyoncé โดยเฉพาะการแสดงเพลงจากอัลบั้มชิ้นมาสเตอร์พีซของเธออย่าง ‘Renaissance’ แล้ว สารคดีคอนเสิร์ตเรื่องนี้ยังพาเราไปเจาะลึกเบื้องหลังการทำงานสุดเอ็กคลูซีฟของดีว่าสาวที่ขึ้นชื่อเรื่องการปกปิดชีวิตส่วนตัวของเธอต่อสาธารณะ ผ่านฟุตเทจสำคัญที่เราไม่สามารถหาชมจากได้ที่ไหนมาก่อนอีกด้วย
สารคดีคอนเสิร์ต ‘Renaissance: A Film by Beyoncé’ ได้เก็บรวบรวมภาพบรรยากาศทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของทัวร์คอนเสิร์ต ‘Renaissance World Tour’ ที่ทำรายได้จากการแสดงทั้งหมด 56 รอบไปอย่างถล่มทลายถึง 579 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สร้างสถิติเป็นทัวร์คอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงสุดที่ประจำปี 2023 พิสูจน์ให้เห็นว่าถึงแม้ Beyoncé จะเริ่มเข้าสู่วงการมาตั้งแต่ยุค 90s แต่ความสามารถที่ไม่มีใครเทียบของเธอนั้นก็ยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้อย่างมหาศาลมาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับการแสดงใน ‘Renaissance World Tour’ ที่ถูกนำมาร้อยเรียงอย่างพิถีพิถันในสารคดีคอนเสิร์ต ‘Renaissance: A Film by Beyoncé’ ได้ถูกตัดสลับกับฟุตเทจเบื้องหลังการทำงานก่อนที่จะนำไปสู่การแสดงของบทเพลงนั้นๆ ซึ่งทำให้เราได้เห็นว่าทุกอย่างที่ปรากฎบนจอภาพนตร์นั้นได้ผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างหนักเพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาดแม้แต่วินาทีเดียว
โดยโชว์จะเริ่มต้นด้วยการแสดงในบทเพลงบัลลาดช้าๆ เพื่อเป็นการวอร์มอัพอย่าง “Dangerously in Love 2” และ “Flaws and All” ก่อนที่จะเข้าสู่โหมดแห่งความบ้าคลั่งเต็มตัวด้วยบทเพลงจากอัลบั้ม ‘Renaissance’ ตั้งแต่ “I’m That Girl”, “Alien Superstar”, “Cuff It”, “Break My Soul” และ “Virgo’s Groove” ซึ่งเธอก็ยังไม่ลืมที่จะเสิร์ฟบทเพลงฮิตๆ ในอดีต ผ่านการเรียบเรียงดนตรีในเวอร์ชั่นสดใหม่ให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงกันด้วย ทั้ง “Formation”, “Diva”, “Run the World (Girls)”, “Crazy in Love”, “Naughty Girl” ไปจนถึง “Drunk in Love” ผสานเข้ากับโปรดักชั่นสุดล้ำและครีเอทีฟตามคอนเซ็ปต์ “การถือกำเนิดใหม่” ของทัวร์ รวมถึงท่วงท่าการเต้นอันน่าหลงใหลของทั้ง Beyoncé และเหล่าแดนเซอร์มืออาชีพที่เราไม่สามารถละสายตาได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
สำหรับโมเมนต์ที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก ในสารคดีคอนเสิร์ต ‘Renaissance: A Film by Beyoncé’ คงหนีไม่พ้นการที่ลูกสาววัย 11 ขวบของ Beyoncé และ Jay-Z อย่าง Blue Ivy Carter ได้ขึ้นไปร่วมแสดงบนกับคุณแม่ในเพลง “My Power” เช่นเดียวกับการปรากฎตัวของแขกรับเชิญพิเศษมากมาย ทั้ง Megan Thee Stallion ในเพลง “Savage Remix”, Kendrick Lamar ในเพลง “America Has a Problem” และศิลปินระดับตำนานผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับเธออย่าง Diana Ross ในเพลง “Love Hangover”
Beyoncé’ พิสูจน์ให้เราได้เห็นอีกครั้งถึงพลังและจิตวิญญาณอันแรงกล้าในการทำสิ่งที่เธอรักมากที่สุด ด้วยการทุ่มเทสุดกำลังเพื่อรังสรรค์โชว์อันสมบูรณ์แบบที่เป็นดั่งการเฉลิมฉลองให้กับวัฒนธรรมและรากเหง้าทางดนตรีของเธอ ซึ่งสามารถพาผู้คนจากทุกเพศและเชื้อชาติมารวมตัวกันเพื่อปลดปล่อยความเป็นอิสระของตัวเองได้อย่างน่าอัศจรรย์ นี่คืออีกหนึ่งสารคดีคอนเสิร์ตที่เป็นหมุดหมายสำคัญของวงการดนตรีโลกเช่นเดียวกับ ‘Truth or Dare’ ของ Madonna เมื่อปี 1991 หรือแม้แต่ ‘Homecoming’ บันทึกการแสดงคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ของเธอที่เทศกาลดนตรี Coachella เมื่อปี 2018 ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนคลับตัวยงของเธอหรือไม่ก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ‘Renaissance: A Film by Beyoncé’ คือสุดยอดสารคดีคอนเสิร์ตของศิลปินหญิงอัจฉริยะที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องได้ชมสักครั้ง
RENAISSANCE WORLD TOUR ฉายแล้ววันนี้ ที่ SF Cinema
21 - 24 ธันวาคม 2566
28 - 31 ธันวาคม 2566
*ทุกที่นั่งรับของพรีเมียมลิขสิทธิ์แท้จากภาพยนตร์
บัตรราคาเริ่มต้น 500 บาท / ที่นั่ง
ซื้อบัตรที่ เว็บไซต์ sfcinema.co/RenaissanceBeyonce, แอปพลิเคชัน sfcinema.co/App_SF และตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติสาขาที่เข้าฉาย
พิเศษ! “เหมารอบ เหมาโรง” รวมตัว BEYHIVE ชาวไทยมาสนุกไปด้วยกัน ติดต่อเหมารอบ เหมาโรงได้ที่ LINE ID: @sfgroupbooking เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด