Ariana Grande เปิดตัวสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 7 'Eternal Sunshine' และยังเป็นอัลบั้มแรกนับตั้งแต่ 'Positions' ในปี 2020 อีกด้วย ซึ่งเธอเผยในบทสัมภาษณ์กับ Apple Music ว่าการหยุดพักไปสักระยะแบบนี้ยิ่งทำให้ยิ่งเกิดแรงบันดาลใจและสนุกกับทุกสิ่งทุกอย่างในการทำเพลงครั้งนี้ม่ากยิ่งขึ้นอีกเป็นหลายเท่าตัว

'Eternal Sunshine' มีทั้งหมด 13 เพลง และมีเพียงเพลงเดียวที่มีศิลปินอื่นมาร่วมงานด้วย นั่นก็คือเพลงปิดอัลบั้มอย่างเพลง 'Ordinary Things' ที่มีคุณยายอันเป็นที่รักของเธอ 'Nonna' หรือ Marjorie Grande มาร่วมให้เสียงบรรยายเติมเต็มในเพลงดังกล่าว

อัลบั้ม 'Eternal Sunshine' ได้รับแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจากภาพยนตร์ sci-fi romantic เรื่อง Eternal Sunshine of the Spotless Mind ซึ่งนำแสดงโดย Jim Carrey ดาราคนโปรดของ 'Ariana Grande' “ฉันคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นที่ชื่นชอบมาก เพราะหลายๆคนสามารถเข้าใจได้ว่า ถึงจะมีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่เพราะรักมากก็เลยอยากจะอยู่ต่อ...ฉันคิดว่ามันบังเอิญมาลงตัวพอดีที่ให้พลงในอัลบั้มเหล่านี้มีเส้นเสี้ยวหนึ่งเกี่ยวกับธีมนั้น ฉันรู้สึกได้รับแรงบันดาลใจจากมันมากจริงๆค่ะ”

Ariana Grande ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ Max Martin อีกครั้ง และตัดสินใจว่าเธอควรจะซื่อสัตย์แค่ไหนในเนื้อเพลง “ฉันตั้งใจจะเขียนเพลงในแบบที่ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน และบางครั้งฉันก็อยากจะพลิกมุมมอง เปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆหรือทำซ้ำ และ [Max Martin] ก็มีความสามารถที่น่าทึ่งมากในการหาจุดสมดุลนั้นและรู้ว่าผู้คนต้องการอะไร ต้องการที่จะได้ยินอะไร และสิ่งที่ฉันจำเป็นต้องพูดด้วย เหมือนเขาจะยืนหยัดเพื่อฉัน เขาจะประมาณว่า 'ไม่คุณสมควรที่จะพูดอย่างนั้น'”

'Eternal Sunshine' ค่อนข้างจะเป็นอัลบั้มที่มีคอนเส็ปครอบชัดเจนกว่าอัลบั้มอื่น และเธอเผยเกี่ยวกับการตัดสินใจถึงทิศทางนี้ว่า “ฉันคิดว่าโดยทั่วไปแล้วงานศิลปะให้อิสระกับคุณมาก เพราะคุณสามารถดึงตัวเองออกมาจากที่ไหนก็ได้จริงๆ คุณสามารถดึงมันออกมาจากความจริง คุณสามารถดึงมาจากแนวคิด คุณสามารถดึงมาจากภาพยนตร์ จากเรื่องราวที่คุณเล่าจากเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เพื่อนเล่าให้คุณฟัง คุณรู้ไหม 'ศิลปะ' สามารถมาจากที่ไหนก็ได้”

และเมื่อถูกถามถึงเพลงที่เธอชอบเป็นพิเศษจากอัลบั้ม “ฉันคิดว่า Top 3 ของฉันคือ : ‘we can’t be friends’, ‘imperfect for you’ และ ‘eternal sunshine’ค่ะ"

ที่มา (1) (2)