วันที่โลกกำลังคิดถึง ในที่สุดพวกเขาก็กลับมา... Empire Of The Sun ดูโอ้อัลเทอร์เนทีฟ-อิเล็กโทรสุดไอคอนิกของ “จักรพรรดิ Steele” และ “ลอร์ด Littlemore” กลับมาร่ายมนต์สะกดแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้งกับซิงเกิลใหม่ “Changes” หวนคืนสู่วงการเพลงอีกครั้งในรอบเกือบ 8 ปีของหนึ่งในวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากออสเตรเลีย

“Changes” คือการเริ่มต้นศักราชใหม่ ของ Empire Of The Sun พวกเขาได้สร้างสรรค์ซาวด์ดนตรีที่ประณีตและเป็นเสียงดนตรีที่ผู้ฟังเข้าถึงได้อย่างลึกซึ้ง โดยใช้บีทดนตรีอันเร้าใจกับเมโลดี้ที่ติดหูและเต็มไปด้วยวิวัฒนาการของเสียงที่ยังคงเอกลักษณ์ของ “Empire Of The Sun” ได้เป็นอย่างดี ยังคงเดินทางก่อตั้งอาณาจักรที่ร้อยเรียงเสียงดนตรีรวมกับองค์ประกอบภาพและการเล่าเรื่องได้อย่างชัดเจน

“ลอร์ด Littlemore” กล่าวว่า “Changes เป็นตัวแทนของทรายแห่งกาลเวลา เรื่องราวของจักรวรรดิ เมื่อมียุคเฟื่องฟูก็ย่อมมีการล่มสลายเป็นธรรมดา แต่ว่าแสงอาทิตย์ยังคงอยู่ตลอดไป จงก้าวเข้ามาในโลกที่พวกเราสร้างขึ้นแต่ครั้งนี้เราได้ดำดิ่งลงไปลึกกว่าเดิม แล้วคุณจะค้นพบเรื่องราวที่กว้างใหญ่ไพศาล”

“จักรพรรดิ Steele” ได้กล่าวว่า “ต้นกำเนิดของ "Changes" คือเป็นเพลงที่แสดงให้เห็นถึงความพัฒนาของพวกเรา มันเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพวกเราก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ ราวกับการที่พวกเราได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง กับการเริ่มต้นใหม่ของจักรวรรดิ”

มิวสิกวิดีโอ “Changes” กำกับโดย Michael Maxxis ไดเรกเตอร์ฝีมือดีโด่งดังเรื่องการกำกับองค์ประกอบภาพออกมาได้ยอดเยี่ยม ที่มาช่วยสร้างประสบการณ์การเดินทางเหนือจริง ประกอบกับความประณีตของ Empire Of The Sun ในการถ่ายทอดเรื่องราวที่เสาะหาพลังของจินตนาการและการเดินทางค้นหาตัวตน ไฮไลท์สำคัญคือการเลือกบินลัดฟ้ามาถ่ายทำในประเทศไทย อย่าง อยุธยา, วังม่วง สระบุรี, วังตะไคร้ นครนายก, วัดป่ากระทุ่ม, นครนายก ที่ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมอันสวยงามจับใจ

Empire Of The Sun ถือเป็นอีกหนึ่งตำนานแห่งวงการดนตรี ด้วยยอดขายอัลบั้มกว่า 5.5 ล้านอัลบั้ม และยอดสตรีมสูงถึง 7.6 พันล้านครั้ง โดยทั้ง 3 เพลงสุดไอคอนิคเปรียบดั่งเพลงประจำชาติอย่าง “Walking On A Dream, We Are The People, Alive” และ “High and Low” เรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม กับยอดสตรีมระดับ Multi-Platinum มาร่วมเดินทางไปกับมหากาพย์การผจญภัยแห่งโลกภาพยนตร์กับองค์ประกอบศิลป์อันน่าทึ่งของ Empire Of The Sun ผลงานที่จะดึงดูดให้ทุกคนหลงเสน่ห์ทั้งงานภาพและเสียง

เกี่ยวกับ Empire Of The Sun

Empire Of The Sun ดูโอ้อัลเทอร์เนทีฟ-อิเล็กโทรสัญชาติออสเตรเลีย ของสมาชิกทั้งสองอย่าง Luke Steele และ Nick Littlemore ได้สร้างกระแสไปทั่วโลก ด้วยการแสดงสดอันน่าตื่นตาตื่นใจและเพลงฮิตติดหูในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในความน่าภาคภูมิใจของชาวออสเตรเลีย ด้วยภูมิหลังของสองศิลปินที่ต่างกัน Luke Steele ที่เคยอยู่ในวง Alternative Rock อย่าง The Sleepy Jackson ส่วน Nick Littlemore ก็เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งวงดนตรีแนว Dance ชื่อดังอย่าง PNAU ถึงแม้แนวเพลงของทั้งคู่จะต่างกัน แต่พวกเขาก็ได้ฟอร์มวง และเริ่มต้นการผจญภัยที่ดึงดูดผู้ชมจากทั่วโลก

ตั้งแต่ได้ร่วมทำวง Empire Of The Sun ทั้งคู่ยังก้าวข้ามขอบเขตของดนตรีด้วยการผสมผสานเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของอิเล็กทรอนิกส์เข้ากับภาพที่ชวนหลงใหล เพื่อสร้างประสบการณ์ทางดนตรีที่น่าดื่มด่ำไม่ซ้ำใครโดยอัลบั้มเปิดตัวแรกของพวกเขา ‘Walking On A Dream’ ที่ประกอบด้วยเพลง “Walking On A Dream” และ “We Are The People” ได้รับคำวิจารณ์ว่าเป็นเหมือน “ภาพยนตร์เส้นทางแห่งจิตวิญญาณ”

ส่วนอัลบั้มที่ 2 ‘Ice On The Dune’ นั้นอัดแน่นไปด้วยเพลง Disco-Pop อย่าง “Alive” และ “DNA” ที่กลายเป็นเพลงเปิดทัวร์ระดับโลก และในอัลบั้มที่ 3 อย่าง ‘Two Vines’ ยังได้ร่วมงานกับศิลปินชื่อดังมากมายทั้ง Lindsey Buckingham และ Wendy Melvoin ในซิงเกิล “High And Low” และ “Way To Go”

ความสำเร็จของ Empire Of The Sun ไม่ได้หยุดแค่ในประเทศออสเตรเลียเท่านั้น เพราะพวกเขายังเป็นเจ้าของยอดสตรีมระดับ Multi-Platinum อีกด้วย นอกจากนี้พวกเขายังได้รับรางวัลอีกมากมายทั้ง “ARIA Awards” (8 รางวัล), “APRA Awards” (2 รางวัล) และ “APRA Billions Award” (1 รางวัล) พร้อมด้วยยอดขายอัลบั้มสูงถึง 5.5 ล้านชุดทั่วโลก และยอดสตรีมกว่า 7.6 พันล้านครั้ง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Empire Of The Sun คือหนึ่งในวงที่ทรงอิทธิพลในโลกแห่งเสียงดนตรี และตำนานแห่งเพลงแนว Electronic