ดีเจและโปรดิวเซอร์หนุ่มชื่อดัง Calvin Harris ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลสหราชอาณาจักรว่า “ปฏิบัติต่อวงการเพลงไม่ต่างกับขยะ” ในช่วงการแพร่ระบาดทั่วโลกของโคโรนาไวรัส
โดยการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวของ Harris เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ #WeMakeEvents ที่ถูกเปิดตัวในวันปฏิบัติการสากลเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับวงการเพลงในสหราชอาณาจักร หลังสูญเสียรายได้ไปกว่า 5.2 พันล้านปอนด์
Harris โพสต์ภาพไนต์คลับที่ถูกไฟไหม้บนอินสตาแกรม พร้อมกับเขียนข้อความว่า “เหมือนอย่างเคย รัฐบาลสหราชอาณาจักรปฏิบัติต่ออุตสาหกรรมดนตรีไม่ต่างกับขยะ; เพิ่มงบช่วยเศรษฐกิจ 5 พันล้าน สร้างรายได้จากภาษีจำนวนมากสำหรับระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ และบริการสาธารณะอื่นๆ… นอกเหนือจากนั้น วัฒนธรรมก็มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง พวกคุณมองไม่เห็นแล้วว่าชีวิตคืออะไร… พวกคุณเลือกที่จะอยู่ในโลกแห่งซูเปอร์มาร์เก็ตและเวชภัณฑ์”
จากนั้น ก็มีผู้แสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ดังกล่าวว่า “ภาพแรกเป็นคลับที่ถูกไฟไหม้ในเยอรมนีหรือโปแลนด์ต่างหาก… ทุกอย่างต้องเกี่ยวข้องกับสหราชอาณาจักรหมดเลยสินะ คุณอาศัยอยู่ในแอลเอไม่ใช่เหรอ กำลังจะปล่อยอัลบั้มอีดีเอ็มป็อบออกมาใช่ไหม? หุบปากไปเลย ”
Harris จึงตอบกลับไปว่า “มันเป็นภาพเปรียบเปรยเว้ยตาทึ่ม และในฐานะคนที่ไม่ได้เงินจากการทำงานในโรงงานปลาและซูเปอร์มาร์เก็ต Safeway ก่อนจะกลายเป็นหนึ่งในโปรดิวเซอร์ชาวอังกฤษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาล ผมมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็นของผมครับ”
ที่มา NME