Legend ผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 8 ของ John Legend (John Roger Stephens) ศิลปินที่เสียงร้องและฝีมือการเล่นเปียโนอย่างหาที่ติไม่ได้ ปล่อยอัลบั้มนี้มาเมื่อกันยายน 2022 เพลง Speak In Tongues เป็นหนึ่งเพลงในอัลบั้ม ที่เค้าได้ Jada Kingdom (Jada Ashanti Murphy) นักร้องสาวจากจาเมกา ที่ถนัดในแนว reggae มา collab ด้วย ซึ่งเพลงนี้ก็เป็นผลงานของเค้าและเธอ ร่วมกับ Stephen Mcgregor, Maurice Simmonds และ Akil King เพลงนี้คุณจะได้ยินเสียงอันไพเราะของ John Legend ร่ายยาวไปกว่าครึ่งเพลง จากนั้นจะได้ยินเสียงของสาว Jada Kingdom ที่ร้องด้วยภาษาแปลกๆ แต่ไพเราะมาก และปิดท้ายด้วยเสียงของทั้งคู่ที่ร้องประสานกันได้อย่างงดงาม
แปลความหมายเพลงโดย EducatePark.Com
เนื้อร้องและคำแปล;
When we talk to each other
ในเวลาที่เราพูดคุยกัน
Speak in tongues
พูดเป็นภาษาที่คนอื่นไม่เข้าใจ
Got our own little language
เป็นภาษาของเราที่เข้าใจกันได้เอง
One on one
เวลาที่เราอยู่ด้วยกันเพียงสองคน
I could taste every drip of your lips, let it blow
ฉันรู้สึกได้ถึงสัมผัสของริมฝีปากคุณแล้วปล่อยให้จิตใจระเบิดออกไป
Breathe on me, go, baby, go
หายใจรดลงมาที่ฉันเลย ที่รัก หายใจรดลงมา
Oh, speak to me, speak to me in tongues
โอ้ พูดกับฉันสิ พูดเป็นภาษาของเราที่ไม่มีใครเข้าใจ
Saying what we want without saying it
พูดได้ว่าสิ่งที่เราต้องการก็คือภาษากายที่ปราศจากคำพูดใด
How we knowin’ all these motions like we planned it
เราเข้าถึงอารมณ์การเคลื่อนไหวเหล่านี้เหมือนว่าได้วางแผนกันไว้
Freaking on this frequency, the passion’s got high, yeah
หลงใหลไปกับความถี่ ปล่อยให้ความรักความสุขเข้าครอบงำ ใช่แล้ว
Building our momentum, is you ready?
เริ่มการเคลื่อนไหวในจังหวะของเรา คุณพร้อมหรือยัง
Don’t you feel the tension getting heavy?
คุณรู้สึกได้ถึงความแรงที่เริ่มหนักหน่วงขึ้นไหม
Say it with your soul, I got the secrеt code
พูดออกมาด้วยจิตวิญญาณของคุณ ฉันรู้ความหมายของคำลับนั้น
Nobody, nobody knows
ไม่มีใคร ไม่มีใครเลยที่รู้
It must be something in thе air
จะต้องเป็นบางสิ่งบางอย่างที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ
Good love flowing everywhere
ความรักอันสวยงามเคลื่อนไปในทุกที่
Must be something in your body
จะต้องเป็นบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในตัวของคุณ
Lets me know what you want, I know what you like
บอกให้ฉันรู้สิว่าคุณต้องการอะไร ฉันรู้ว่าคุณชอบอะไร
When we talk to each other
ในเวลาที่เราพูดคุยกัน
Speak in tongues
พูดเป็นภาษาที่คนอื่นไม่เข้าใจ
Got our own little language
เป็นภาษาของเราที่เข้าใจกันได้เอง
One on one, yeah
เวลาที่เราอยู่ด้วยกันเพียงสองคน ใช่เลย
I could taste every drip of your lips, let it blow
ฉันรู้สึกได้ถึงสัมผัสของริมฝีปากคุณแล้วปล่อยให้จิตใจระเบิดออกไป
Breathe on me, go, baby, go
หายใจรดลงมาที่ฉันเลย ที่รัก หายใจรดลงมา
Oh, speak to me, speak to me in tongues
โอ้ พูดกับฉันสิ พูดเป็นภาษาของเราที่ไม่มีใครเข้าใจ
La-la-la-la, la, la-la, la
La-la-la-la, la, la-la, la, la, la
Oh, speak to me, speak to me in tongues
โอ้ พูดกับฉันสิ พูดเป็นภาษาของเราที่ไม่มีใครเข้าใจ
Sippin’ on that potion, overdosin’
จิบในความรักความสุขนั้นมากมายจนเกินขอบเขต
Kisses runnin’ over like the ocean, okay
รสจูบของเราเหมือนหลงวนอยู่ในมหาสมุทร ใช่เลย
Doin’ things that we won’t say, yeah
ทำในสิ่งที่เราไม่จำเป็นต้องสื่อสารกัน ใช่แล้ว
Take turns and we rotate, okay
ผลัดกันและเราเปลี่ยนสลับกัน ใช่แล้ว
Must be something in the air
จะต้องเป็นบางสิ่งบางอย่างที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ
Good love flowing everywhere
ความรักอันสวยงามเคลื่อนไปในทุกที่
Must be something in your body
จะต้องเป็นบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในตัวของคุณ
Lets me know what you want, I know what you like
บอกให้ฉันรู้สิว่าคุณต้องการอะไร ฉันรู้ว่าคุณชอบอะไร
When we talk to each other
ในเวลาที่เราพูดคุยกัน
Speak in tongues
พูดเป็นภาษาที่คนอื่นไม่เข้าใจ
Got our own little language
เป็นภาษาของเราที่เข้าใจกันได้เอง
One on one, yeah
เวลาที่เราอยู่ด้วยกันเพียงสองคน ใช่เลย
I could taste every drip of your lips, let it blow
ฉันรู้สึกได้ถึงสัมผัสของริมฝีปากคุณแล้วปล่อยให้จิตใจระเบิดออกไป
Breathe on me, go, baby, go
หายใจรดลงมาที่ฉันเลย ที่รัก หายใจรดลงมา
Oh, speak to me, speak to me in tongues
โอ้ พูดกับฉันสิ พูดเป็นภาษาของเราที่ไม่มีใครเข้าใจ
La-la-la-la, la, la-la, la
La-la-la-la, la, la-la, la, la, la
Oh, speak to me, speak to me in tongues
โอ้ พูดกับฉันสิ พูดเป็นภาษาของเราที่ไม่มีใครเข้าใจ
Talk to mi, baby
พูดกับฉันสิ ที่รัก
Dis a weh yuh come here for, mi ready when yuh ready
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ ฉันพร้อมเสมอในเวลาที่คุณพร้อม
Tease yuh, den mi mek yuh work fi it cah mi petty
ฉันจะหยอกล้อเพื่อทำให้คุณมีอารมณ์เพราะว่าฉันชอบแหย่คุณเล่น
Package it and seal it, love yuh through di ceiling
เตรียมพร้อมโอบกอดคุณด้วยความรัก รักคุณมากมายเหลือเกิน
I’m just tryna feel it, yuh mek mi feel confident
ฉันพยายามเข้าถึงความรู้สึกที่ลึกซึ้ง คุณทำให้ฉันเชื่อใจ
Like I’m a limited edition, okay (Uh, huh)
เหมือนว่าฉันเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้น ใช่แล้ว
Doh even business if we kiss an’ yuh tell dem
ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้นว่าเราจูบกันแล้วคุณจะไปบอกคนอื่น
Chat inna tongues and mash up mi heaven, yeah
พูดคุยภาษาของเราและประสานกายกันทำให้ฉันมีความสุขสุดยอด ใช่แล้ว
An’ yuh sturdy wid it, nuh limit
และคุณมีความพลังแห่งความรักที่ไม่มีข้อจำกัด
Yuh body language, it be talkin’ to me, yuh sih mi
ภาษากายของคุณที่กำลังสื่อกับฉัน คุณเข้าใจฉันดี
Nuh badda tell mi seh fi wait a minute, come wid it
อย่าบอกว่าให้ฉันรอก่อน เข้ามาหาให้ได้เลย
Wi haffi go again, mi neva finish, twinkle
เราจะต้องทำแบบนี้ไปอีกเพราะเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอสำหรับฉัน สาวน้อยผู้สดใส
When we talk to each other
ในเวลาที่เราพูดคุยกัน
Speak in tongues
พูดเป็นภาษาที่คนอื่นไม่เข้าใจ
Got our own little language
เป็นภาษาของเราที่เข้าใจกันได้เอง
One on one
เวลาที่เราอยู่ด้วยกันเพียงสองคน ใช่เลย
I could taste every drip of your lips, let it blow
ฉันรู้สึกได้ถึงสัมผัสของริมฝีปากคุณแล้วปล่อยให้จิตใจระเบิดออกไป
Breathe on me, go, baby, go
หายใจรดลงมาที่ฉันเลย ที่รัก หายใจรดลงมา
Oh, speak to me, speak to me in tongues
โอ้ พูดกับฉันสิ พูดเป็นภาษาของเราที่ไม่มีใครเข้าใจ
La-la-la-la, la, la-la, la
La-la-la-la, la, la-la, la, la, la
Oh, speak to me, speak to me in tongues (Talk to me, baby)
โอ้ พูดกับฉันสิ พูดเป็นภาษาของเราที่ไม่มีใครเข้าใจ (พูดกับฉันสิ ที่รัก)
View this post on Instagram