“lullaboy” ศิลปินชาวอินโดนิเซีย - สิงคโปร์ กลับมาพร้อมซิงเกิลใหม่ล่าสุดบอกเล่าเรื่องราวของการไม่เป็นไปตามค่านิยมของสังคม ในชื่อเพลง “cool” ซึ่งเป็นซิงเกิลที่ 2 ของเขาในปี 2566 นี้ โดย “lullaboy” ยังเป็นศิลปิน SEA-Pop ศิษย์เก่าจากสถาบัน Berklee College of Music ผู้มียอดสตรีมมิ่งต่อเดือนมากกว่า 1.6 ล้านคนต่อเดือนบน Spotify ทั้งยังได้ออกแสดงคอนเสิร์ตมาแล้วหลายประเทศทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (มาเลเซีย, สิงคโปร์, ไทย, ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย) ความสำเร็จของเขาในฐานะศิลปิน SEA-Pop ดาวรุ่งได้เริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยการร้องเพลงคัฟเวอร์บน YouTube ที่ทำให้เขาได้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จากการสนับสนุนของแฟน ๆ ผู้เป็นที่รัก
เรื่องราวการเติบโตของเพลง “cool” ถือได้ว่าเป็นจุดสูงสุดในความเชื่อและคุณค่าชีวิตของ “lullaboy” เขาได้ซ่อนเนื้อหาที่ทิ่มแทงจิตใจเอาไว้ในบทเพลง โดยนำเสนอเพลงออกมาให้ฟังง่าย สบาย ๆ ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวสำหรับผู้คนที่เบื่อหน่ายกับการวิ่งตามให้ตัวเองดีพอให้โลกต้องยอมรับ ซึ่ง “lullaboy” ได้อธิบายไว้ว่าเพลงนี้เป็นเนื้อเพลงที่แฝงไปด้วยความกล้าหาญที่แสดงออกมาจากการทำร้ายตนเอง, การทำให้ผู้คนพอใจ, และการถูกทำลายภาพฝันในวัยเด็ก ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งตรงข้ามกับที่ต้องการ “lullaboy” จึงนำแทร็กด้วยท่วงทำนองที่ส่งพลังบวกให้กับทุก ๆ คน ที่กำลังหลงทางเพื่อให้ทุกสิ่งหลอมรวมกันจนเกิดเป็นเพลง “cool” ขึ้นมา ข้อความให้กำลังใจสำหรับคนที่กำลังคิดว่าตัวเองไม่ดีพอ เขากำลังร้องขอให้ทุกคนั้นยึดมั่นอยู่ในเส้นทางของตัวเอง ไม่หวั่นไหวไปกับแรงกดดัน และยึดมั่นในสิ่งที่ทุก ๆ คนเป็น
“lullaboy” ยังได้กล่าวไว้ว่า “ยิ่งเส้นทางในอาชีพและการเดินทางของผมพัฒนาขึ้น ผมจึงตระหนักได้ว่าไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่าการทำตามเสียงของหัวใจและซื่อตรงในตัวตนของตนเอง” นอกจากนี้เพลง “cool” ได้รับการโปรดิวซ์จากโปรดิวเซอร์ชื่อดังอย่าง “Jacob Attwool” (ผู้สร้างผลงานให้กับ Dua Lipa, NCT127, TXT, Enhypen) และได้รับการเขียนเพลงร่วมกับ “Ricky Manning” (ผู้อยู่เบื้องหลังบทเพลงของ Carlie Hanson, Lennon Stella และ Why Don't We) เพลงนี้ถือได้ว่าเป็นเครื่องเตือนใจว่าในสังคมตอนนี้ที่เราจะต้องเป็นอะไรซักอย่างนั้น เราควรจะเป็นตัวของตัวเอง โดย “lullaboy” ยังได้สรุปกับบทเพลงนี้ไว้ว่า “ในสมัยนี้วัยรุ่นจำนวนมากต้องดิ้นรนเพื่อค้นหาตัวเอง ผมหวังว่าบทเพลงนี้จะช่วยให้ทุกคนยอมรับและรักในตัวเองได้”
ซิงเกิล “cool” ยังถือเป็นซิงเกิลที่ 3 ของ “lullaboy” ภายใต้การทำงานของ “RedRecords” หลังจากที่ประสบความสำเร็จในบทเพลง “Shortcut To Heaven” และ “van gogh”
เกี่ยวกับ “lullaboy”
“lullaboy” ได้ค้นพบความหลงใหลในดนตรี จากผู้สมัครข้ารับราชการทหารของสิงคโปร์สู่การศึกษาต่อใน Berklee
College of Music ลัลลาบอยสามารถสร้างยอดผู้ฟังในรายเดือนได้กว่า 1.6 ล้านสตรีมมิ่งบน Spotify และได้ออกทัวร์แสดงคอนเสิร์ตในหลากหลายประเทศทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย) ความสำเร็จของเขาในฐานะศิลปิน SEA-Pop นั้น เริ่มมาจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ จากการคัฟเวอร์เพลงบน Youtube ในห้องนอนของตัวเองที่ซึ่งทำให้เขาได้พบกับแฟน ๆ อันเป็นที่รัก อีกทั้ง “lullaboy” ยังได้รับเลือกให้เป็นศิลปินชาวสิงคโปร์ยอดนิยมในปี 2565 โดย Spotify อีกด้วย