หลังจากที่ “Valley” วงดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีฟ-ป็อปจากแคนาดา ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม จนได้ร่วมทัวร์กับศิลปินชื่อดังอย่าง “Dermot Kennedy” ในแคนาดา พวกเขาได้กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับเปิดตัวซิงเกิลล่าสุด “Have A Good Summer (Without Me)” ภายใต้การดูแลของค่ายเพลงชั้นนำอย่าง “Capitol Records/Universal Music Canada” โดยเพลงนี้จะเป็นซิงเกิลที่ 4 จากอัลบั้มที่ 2 ของวง “Lost In Translation” ซึ่งมีกำหนดปล่อยในวันที่ 23 มิ.ย. นี้
เพลง “Have A Good Summer (Without Me)” ได้เล่าถึงบรรยากาศแห่งความเศร้าในวันอกหักได้เป็นอย่างดี โดยเพลงนี้ได้ใช้สภาพอากาศและฤดูกาลในการเล่าเรื่อง เหมือนที่ศิลปินระดับโลกอย่าง “Lana Del Rey” และ “Taylor Swift” เคยทำ อย่างไรก็ตาม “Valley” ได้สร้างเอกลักษณ์ของวงผ่านเนื้อเพลงอย่าง “If you fall for somebody new, do everything we used to do, I hope it gets you thinking about me” ที่พรรณนาถึงประสบการณ์อกหักในช่วงซัมเมอร์ได้อย่างมีเสน่ห์ ซึ่งหนึ่งในสมาชิกของวง “Karah James” ได้กล่าวถึงเพลงนี้ว่า “ฤดูร้อน” (summer) ในสายตาของพวกเขาเปรียบเหมือน “มุมที่สุดจะงดงามของชีวิต” ซึ่งเต็มไปด้วยความรักและการผจญภัยสุดโลดโผน ดังนั้น การสูญเสียคนที่รักไปในช่วงเวลานี้ จึงเป็นเรื่องที่ร้ายแรงและเจ็บปวดใจมาก และเพลง “Have A Good Summer (Without Me)” ก็สามารถถ่ายทอดความรู้สึกนี้ออกมาได้ จนหลายคนที่ “แบด” ก็ยังต้อง “แซด” ตาม ๆ กันไปเลยทีเดียว
และไม่เพียงเท่านั้น เพราะ “Valley” ยังมาพร้อมกับเพลงอื่น ๆ ที่ถูกปล่อยออกไปก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น “Throwback Tears” เพลงน้ำดีที่ได้รับกระแสตอบรับจากสื่อชั้นนำอย่าง “Rolling Stone India” รวมถึงเพลง “Good, but not together” ที่เพิ่งถูกปล่อยมาพร้อมกับวีดีโอการแสดงสด และเพลง “Break For You” เพลงที่แฟน ๆ จำนวนมากของพวกเขาโปรดปราน ซึ่งฮิตติดชาร์ต “Canada Top 50 Viral” บน Spotify และจนถึงตอนนี้ เพลงเหล่านี้มียอดสตรีมกว่า 10 ล้านสตรีมทั่วโลกแล้ว ดังนั้น อาจเรียกได้ว่า นี่เป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนปล่อยอัลบั้ม “Lost In Translation” ที่จะถูกปล่อยเร็ว ๆ นี้ก็ว่าได้
นอกจากนี้ “Valley” เพิ่งได้ปิดฉากคอนเสิร์ต “Lost In Translaion Tour” ในอเมริกาเหนือ และเตรียมทัวร์ต่อในออสเตรเลียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย และแน่นอนว่า ทางวงจะมาเยือนประเทศไทยในงาน “Road to Sonic Bang Music Festival” พร้อมกับศิลปินระดับโลกอื่น ๆ เช่น “LANY,” “ADOY” และ “Burnout Syndromes” ด้วย ดังนั้น แฟน ๆ ชาวไทยเตรียมตัวพบกับวงอินดี้สุดเก๋ “Valley” และเตรียมตัวเป็น “แซดบอย” กับซิงเกิล “Have A Good Summer (Without Me)” กันถ้วนหน้าได้แล้ววันนี้!!!
เกี่ยวกับ “Valley”
“Valley” เป็นวงอัลเทอร์เนทีฟ-ป็อปจากแคนาดา ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล “Juno Awards” ซึ่งมีสมาชิก 4 คน ได้แก่ “Rob Laska” (นักร้องหลัก), “Mickey Brandolino” (กีตาร์, ซินธ์), “Alex Dimauro” (เบส), และ “Karah James” (กลอง, นักร้อง) โดยพวกเขาได้ผลิตผลงานที่มีจังหวะหนักแน่นและมีจังหวะที่แปลกใหม่ และตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา “Valley” ได้ปล่อยซืงเกิลและ EP อย่างต่อเนื่อง จนได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ฟังทั่วโลก ซึ่งหลายเพลงก็ฮิตติดชาร์ตทั้งในสหรัฐฯ ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น
ในปี 2016 “Valley” ได้ถูกก่อตั้งโดยบังเอิญ เมื่อมีสตูดิโอทัองถิ่นในแคนาดาจองตัวสมาชิกวงให้แสดงพร้อมกัน โดยขณะนั้น เป็นช่วงมัธยมปลายที่ “Mickey” และ “Karah” เล่นดนตรีด้วยกัน ในขณะที่ “Rob” และ “Alex” เล่นกับวงอื่นอยู่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้รวมตัวกัน และเปิดตัวต่อสาธารณชนในนาม “Valley” ด้วย EP อย่าง “This Room Is White” ในปี 2016 ตามมาด้วยอัลบั้มเต็มอย่าง “MAYBE” ในปี 2019 ตามมาด้วย “sucks to see you doing better” ในปี 2020 และ “Last Birthday” ในปี 2021 และด้วยการปล่อยเพลงอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้พวกเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล “Juno Awards” และคำชื่นชมจากสื่อหลายสำนัก อาทิ “Earmilk,” “Wonderland,” “American Songewriter” รวมถึง “CBC” มากไปกว่านั้น ซิงเกิล “Like 1999” ของพวกเขายังได้รับการรับรองระดับ Gold และเปิดตัวในชาร์ตระดับโลก หลังจากเป็นไวรัลบน TikTok ด้วย
“Valley” เป็นที่รู้จักจากการแสดงสดที่ทรงพลังและสนุกสนาน พวกเขาเคยแสดงเปิดให้กับศิลปินอย่าง “Lennon Stella,” “The Band CAMINO” และ “Arkells” อีกทั้งยังเคยแสดงในเทศกาลดนตรีทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น “The Governors Ball,” “Slow Life,” “Slow Live Festival,” “Wunderstruck,” และ “Life Is Beautiful” และเมื่อปีที่แล้ว ตั๋วคอนเสิร์ตของพวกเขาในฐานะศิลปินหลักในอเมริกาเหนือก็ขายจนเกือบหมดด้วย
เมื่อปีที่ผ่านมา “Valley” ได้แสดงให้เห็นว่า การทำงานหนักของพวกเขาได้สัมฤทธิ์ผลอย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการได้เป็นส่วนหนึ่งของ “Apple Music's Up Next Artist” พร้อมกับการปล่อย “Apple Music Home Session” และ “Spotify Singles Session” รวมถึงการแสดงที่เป็นส่วนหนึ่งของคอนเสิร์ต “#LiveAtHome” ของ “Stephen Colbert” ที่เป็นการปรากฏตัวครั้งแรกบนทีวีในสหรัฐฯ นอกจากนี้ พวกเขาได้เปิดตัวงานเริ่มต้นการแข่งขันกีฬาแคนาดาที่ใหญ่ที่สุด “Grey Cup” ในปี 2022 และด้วยการทัวร์เป็นศิลปินหลักครั้งที่ 2 ในอเมริกาเหนือ พร้อมกับอัลบั้มที่ 2 ของพวกเขา “Lost In Translation” ที่กำลังจะวางจำหน่ายในเดือนมิ.ย. นี้ ปี2023 จึงต้องเป็นปีที่มั่งคั่งสำหรับ “Valley” อย่างแน่นอน