Tove Lo (โทฟ โล) ศิลปินสาวสวยจากสวีเดน มาพร้อมกับดนตรีแนวอิเลคโทรป๊อปผสมผสานกับเนื้อเพลงแบบดิบๆได้อย่างสวยงาม จากซิงเกิ้ลแรกของเธอ Habits (Stay High)

เพลงที่ประสบความสำเร็จสามารถเข้าสู่ชาร์ต UK Top Ten, ขึ้นเป็นอันดับ 3 ใน Billboard Hot 100, มียอดขายทั่วโลกมากกว่า 3 ล้านก็อปปี้ ติดอันดับ iTunes Top Ten ใน 40 ประเทศ เธอยังได้รับความสนใจจากศิลปินดังๆอย่าง Lorde, Ellie Goulding และ Katy Perry ซึ่งได้ชวน Tove Lo ให้ไปเล่นเปิดคอนเสิร์ตของ Katy เอง ในออสเตรเลียทัวร์ “เวลาที่คุณพูดถึงฉันว่า ‘นั่นมัน ใช่เลย!’ (เธอหัวเราะ) มันยากนะ เวลาที่คุณอยู่กึ่งกลางระหว่างทุกสิ่ง แล้วระลึกได้ว่าความฝันคุณกำลังจะเป็นจริงแล้ว” ความรู้สึกนี้ได้สะท้อนออกมาผ่านชื่ออัลบั้มเดบิวต์ของเธอในชื่อ ‘Queen of the Clouds’ “มันเป็นเงาสะท้อนถึงช่วงเวลาต่างๆที่ขึ้นและลงในชีวิตของฉัน และฉันได้เห็นภาพที่มันใหญ่ขึ้น ฉันรู้สึกเหมือนว่ากำลังเต้นรำอยู่บนก้อนเมฆ มันมหัศจรรย์มากๆ” Tove Lo กล่าว ภาพที่ใหญ่ขึ้นของเธอก็คือการที่เธอได้ก้าวขึ้นมาเป็นป๊อปสตาร์หน้าใหม่แห่งวงการนี้นั่นเอง
 
ชีวิตของ Tove Lo เกี่ยวข้องกับดนตรีมาโดยตลอด ตอนเธอเรียนอยู่ในชั้นมัธยมปลายเธอได้พบกับคุณครูที่มีภาษิตประจำใจว่า “อ่านหนังสือมันน่าเบื่อ เล่นดนตรีดีกว่า” และที่นี่เองที่เธอได้เริ่มตั้งวงดนตรีขึ้นมา เธอเริ่มเรียนรู้เรื่องการเขียนเพลง และยังได้ร้องเพลงกับวงอีกด้วย ซึ่งเธอมักจะทำเสมอเมื่ออยู่นอกรั้วโรงเรียน เธอร้องเพลงอยู่กับวงร็อค และเล่นโชว์อยู่ในสถานที่ ที่เธอให้คำนิยามว่า‘ไม่น่าประทับใจ’ ซึ่งเธอก็ได้รับเงินค่าตอบแทนสำรับการร้องเพลงจากที่นี่และเริ่มทำเพลงเดโม่ของตัวเองบนคอมพิวเตอร์ ความตั้งใจของเธอทำให้เธอเริ่มทำเพลงในสตูดิโอที่สร้างขึ้นเองภายใต้อากาศอันหนาวเหน็บของประเทศสวีเดน “ญาติของฉันมีห้องเก็บของที่อยู่นอกตัวบ้านของพวกเขา ซึ่งมันไม่อุ่นเลย และฉันก็มีแค่เครื่องทำความอุ่นที่นั่นเท่านั้น บางครั้งในฤดูหนาวมันก็หนาวติดลบ 10 องศาเลย (เธอหัวเราะ)” หนึ่งในเพลงที่ทำขึ้นที่สตูดิโอแห่งนั้นก็คือ ‘Habbits (Stay High)’ นั่นเอง
 
เธอได้ตั้งเป้าหมายฝึกฝนการเขียนเพลงในอาชีพนักแต่งเพลง เธอใช้ส่วนหนึ่งจากประสบการณ์ของเธอในการเขียนเพลงขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น อกหัก, ดื่มเหล้าและเล่นยา, ใช้ชีวิตกลางคืนแบบไม่เป็นผู้เป็นคน และตื่นมาในตอนเช้าด้วยความรู้สึกหมดอาลัยตายอยากในชีวิต Tove Lo มีโอกาสได้ร่วมปาร์ตี้กับเพื่อนร่วมโรงเรียนอย่าง Icona Pop ในฐานะที่พวกเขาได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง เธอจึงคิดว่ามันคงจะเป็นไอเดียที่ดีมากๆหากเธอได้มีโอกาสนำเสนอเพลงกับค่ายเพลงใหญ่ๆสักค่าย “ฉันก็แค่เดินไปหาใครบางคนและก็พูดกับเขาว่า ‘คุณ คุณต้องฟังเพลงของฉันนะ พวกมันยอดเยี่ยมมาก’ (เธอหัวเราะ) ฉันก็แค่อยากจะได้คำติชมจากใครบางคน แล้วเขาก็เหมือนจะคิดในใจว่า ‘คุณเป็นใครกันเนี่ย?’แต่ฉันก็บังคับเขาให้เขาให้อีเมล์ฉันมา และฉันก็ส่งเพลงของฉันบางส่วนกลับไปให้เขา” จากจุดนั้นทำให้ Tove Lo ได้เซ็นสัญญาการเผยแพร่เพลงกับ Warner Chappell ก่อนที่เธอจะค้นพบตัวเอง เธอได้บินมายังแอลเอและได้พบกับนักแต่งเพลงป๊อปชื่อดังอย่าง Max Martin ที่บ้านของเขา “ประสบการณ์ทั้งหมดให้ฉันมากกว่าความมั่นใจ” เธอกล่าว  การพบกันแบบไม่ได้ตั้งใจครั้งนั้นทำให้เธอได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมแต่งเพลงของ Max Martin และ Shellback ซึ่งทำงานเขียนเพลงป๊อปให้กับศิลปินแนวหน้ามากมาย
 
เช่นเดียวกับในอัลบั้ม EP ‘Truth Serum’ และเดบิวต์อัลบั้ม ‘Queen of  the Clouds’ เป็นหลักฐานการันตีได้เป็นอย่างดีถึงฝีมือในการเขียนเพลงของเธอ ไม่ว่าจะเป็นซิงเกิ้ล ‘Not On Drug’ ที่เธอได้หยิบเอาคำจากในเพลงมาตั้งเป็นชื่ออัลบั้ม และซิงเกิ้ลฮิตอย่าง ‘Habits (Stay High)’ ซึ่งเธอได้พูดถึงเพลงนี้ว่า “เพลงนี้เป็นเพลงที่เกี่ยวกับแฟนเก่าของฉัน มันเต็มไปด้วยความหลงใหลและความเจ็บปวดเต็มไปหมด มันยุ่งเหยิงและไม่ราบลื่น” สำหรับเพลงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรงเพลงนี้ แต่มันกลับสำเร็จได้อย่างไม่น่าเชื่อ “ฉันหมายถึงว่าคุณสามารถฝันได้ตลอดเวลาแต่ก็ต้องดูสิ่งที่ที่มันเกิดขึ้นแบบแปลกๆด้วย” เธอหัวเราะ”ตอนที่ฉันปล่อยเพลง Habits (Stay High) ฉันไม่เคยคิดเลยว่ามันจะมาได้ไกลขนาดนี้ ฉันแค่ภูมิใจกับมันและก็รู้ว่าฉันอยากให้มีมันอยู่ตรงนั้น” Tove Lo กล่าว “ฉันไม่ชอบกลั่นกรองมัน ฉันก็แค่คิดว่า ‘ทำไมต้องมีเล่ห์เหลี่ยมด้วย ก็แค่พูดมันออกมาตรงๆ’ ไม่ใช่ว่า ‘ฉันโสดนะ มาปาร์ตึ้ทั้งคืนกันดีกว่า’มันมากกว่านั้นแค่พูดตรงๆว่า ’ฉันถูกหักอกมาอย่างแรงเลยตอนนี้ และฉันก็ไม่แคร์’”
 
‘Queen Of The Clouds’ ที่ได้รับการโปรดิวซ์จากกลุ่มโปรดิวซ์เซอร์ Swedes The Struts และได้แบ่งเพลงภายในอัลบั้มออกเป็น 3 ตอน ได้แก่ Sex, Love และ Pain ซึ่งเธอได้ถ่ายทอดประสบการณ์ของเธอในช่วงหกเดือนก่อนทำอัลบั้มออกมาอย่างตรงไปตรงมา“อัลบั้มนี้มีสองเพลงที่ดาร์คมากๆอยู่ในอัลบั้ม แต่มันก็ยังมีช่วงเวลาดีๆ ดังนั้นฉันจึงอยากจะใส่มันลงไปด้วย” ซึ่งเธอได้ถ่ายทอดออกมาผ่านเพลง ‘My Gun’ ที่มีเนื้อหาถึงความมั่นใจและความเสน่ห์หาในคู่ของตัวเอง เช่นเดียวกับอีกเพลงหนึ่งที่เซ็กซี่ไม่แพ้กันอย่าง ‘Talking Body’ (เป็นเพลงเกี่ยวกับเซ็กซ์แบบตรงๆ!), เพลงเร็วที่มีเนื้อหาดีแต่ตรงไปตรงมาอย่าง ‘Timebomb’ ที่พูดถึงความสัมพันธ์ที่อินเลิฟอย่างมากแต่ในขณะเดียวกันก็ตระหนักได้ว่าความรักครั้งนี้อาจจะไม่ได้คงอยู่ตลอดไป, เพลงที่น่าจะเป็นเพลงที่ถ่ายทอดฝีมือการเขียนเพลงของ Tove Lo ได้ดีที่สุดในขณะนี้ ‘Moments’ เพลงที่ใช้เสียงกลองรัวเข้ามาและหายไปอย่างรวดเร็วที่มีเนื้อร้องถ่ายทอดอารมณ์อย่างตรงไปตรงมาเหมือนเช่นท่อนที่ร้องว่า “I’m not the prettiest you’ve ever seen, but I have my moments” ก่อนจะตบด้วยเนื้อร้องดาร์คๆอย่าง “On good days I am charming as fuck” นี่เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งจากผลงานของ Tove Lo ด้วยความสามารถที่เธอซ่อนอารมณ์ต่างๆไว้ในเพลง ที่คุณฟังแล้วจะอยากกระโดดไปรอบๆห้อง พร้อมกับดื่มไปด้วยและร้องตามเพลงด้วยความรู้สึกของคุณและใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา