Ariana Grande ป๊อปสตาร์เสียงหวาน หลังจากหายไปเกือบ 4 ปี yes, and? คือซิงเกิ้ลแรกที่เธอปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2024 ภายใต้สังกัดเดิมของเธอ Republic Records เป็นเพลงที่เธอเองทำงานคู่กับโปรดิวเซอร์คู่ใจจากสวีเดน Max Martin และ Ilya Salmanzadeh อยู่ในสตูดิโออัลบั้มที่ 7 ของเธอที่ชื่อว่า Eternal Sunshine และแน่นอนว่าเพลงนี้ยังคงกลิ่นอายความเป็น pop-house แบบสนุกๆ แถมเพลงนี้ชวนให้คุณคิดถึงเพลงจากตำนานอย่าง Madonna เพลง Vogue ที่เธอนำมาผสมผสานเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
ส่วน MV ของเพลงนี้ ก็ทำให้ Arianators หายคิดถึงกันไปเลยทีเดียว เพราะเธอยังคงเหมือนเดิมทรงผมหางม้าที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอมีปรับนิดหน่อย คือ สีผมที่คราวนี้เธอทำผมสีบลอนด์สว่าง เรียกว่าฟังเพลงพร้อมดู MV เพลงนี้เสร็จก็รู้เลยว่าดังติดชาร์ทแน่นอน
ความหมายเพลงโดย EducatePark.Com
เนื้อร้องและคำแปล;
In case you haven’t noticed
ในกรณีที่คุณไม่ทันได้สังเกตเห็น
Well, everybody’s tired
ทุกคนรู้สึกเหนื่อยล้าในชีวิต
And healin’ from somebody
และกำลังอยู่ในขั้นตอนการเยียวยาจากใครบางคน
Or somethin’ we don’t see just right
หรือบางอย่างที่เรามองไม่เห็นได้อย่างชัดเจน
Boy, come on, put your lipstick on (No one can tell you nothin’)
เพื่อนเอ๋ย มาเลย เตรียมตัวให้พร้อมกับความมั่นใจ (เป็นตัวของตัวเองไม่สนใจว่าใครจะพูดอะไร)
Come on and walk this way through the fire (Don’t care what’s on their mind)
เผชิญหน้าก้าวผ่านความยากลำบากนี้ไป (ไม่ต้องกังวลกับสิ่งที่คนอื่นคิด)
And if you find yourself in a dark situation
และถ้าคุณพบว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่มืดมนท้าทาย
Just turn on your light and be like
เพียงแค่ค้นหาความแข็งแกร่งภายในตัวคุณเพื่อนำทางไป
Yes, and?
“ใช่ แล้วจะทำไม”
Say that shit with your chest, and
พูดสิ่งนั้นออกไปด้วยความเชื่อมั่นและ
Be your own fuckin’ best friend
ให้ความรักความมั่นใจกับตัวเองเหมือนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด
Say that shit with your chest
พูดสิ่งนั้นออกไปด้วยความเชื่อมั่น
Keep moving like, “What’s next?”
ก้าวไปข้างหน้าพร้อมยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นประมาณว่า “จะเป็นอย่างไรต่อไป”
Yes, and?
“ใช่ แล้วจะทำไม”
Now, I’m so done with caring
เวลานี้ฉันพอแล้วกับความกังวลและสนใจ
What you think, no, I won’t hide
เกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นคิด ไม่ ฉันจะไม่ปกปิด
Underneath your own projections
ไม่ทำตามความคาดหวังภายใต้สิ่งที่คุณต้องการให้เป็น
Or change my most authentic life
หรือเปลี่ยนแปลงชีวิตที่แท้จริงของฉัน
Boy, come on, put your lipstick on (No one can tell you nothin’)
เพื่อนเอ๋ย มาเลย เตรียมตัวให้พร้อมกับความมั่นใจ (เป็นตัวของตัวเองไม่สนใจว่าใครจะพูดอะไร)
Come on and walk this way through the fire (Don’t care what’s on their mind)
เผชิญหน้าก้าวผ่านความยากลำบากนี้ไป (ไม่ต้องกังวลกับสิ่งที่คนอื่นคิด)
And if you find yourself in a dark situation
และถ้าคุณพบว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่มืดมนท้าทาย
Just turn on your light and be like
เพียงแค่ค้นหาความแข็งแกร่งภายในตัวคุณเพื่อนำทางไป
Yes, and?
“ใช่ แล้วจะทำไม”
Say that shit with your chest, and
พูดสิ่งนั้นออกไปด้วยความเชื่อมั่นและ
Be your own fuckin’ best friend
ให้ความรักความมั่นใจกับตัวเองเหมือนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด
Say that shit with your chest
พูดสิ่งนั้นออกไปด้วยความเชื่อมั่น
Keep moving like, “What’s next?”
ก้าวไปข้างหน้าพร้อมยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นประมาณว่า “จะเป็นอย่างไรต่อไป”
Yes, and? (Yeah)
“ใช่ แล้วจะทำไม” (ใช่แล้ว)
My tongue is sacred, I speak upon what I like
คำพูดกับความคิดที่แสดงออกอย่างอิสระเป็นสิ่งสำคัญ ฉันจะพูดในสิ่งที่ฉันชอบ
Protected, sexy, discerning with my time (My time)
ต้องคอยดูแลรักษาตัวเองแต่มีความมั่นใจและฉลาดในการใช้เวลา (เวลาของฉัน)
Your energy is yours and mine is mine (It’s mine, it’s mine)
พลังงานของคุณก็คือของคุณ ส่วนของฉันก็คือของฉันแยกจากกัน (พลังงานของฉัน)
What’s mine is mine
อะไรที่เป็นของฉันก็คือของฉัน
My face is sitting, I don’t need no disguise (I don’t need no disguise)
มั่นใจในตัวเองฉันไม่ต้องเสแสร้งหรือปิดบังอะไร (ฉันไม่จำเป็นต้องปิดบัง)
Don’t comment on my body, do not reply
อย่ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างกายของฉัน ไม่ตอบกลับหรอก
Your business is yours and mine is mine
เรื่องของคุณเป็นของคุณแล้วเรื่องของฉันก็เป็นของฉัน
Why do you care so much whose **** I ride?
ทำไมพวกคุณถึงสนใจกันมากนักว่าฉันจะไปมีสัมพันธ์กับใคร
Why?
ทำไม
Yes, and? (Yes, and?)
“ใช่ แล้วจะทำไม” (ใช่ แล้วจะทำไม)
Say that shit with your chest, and (Say that shit with your chest)
พูดสิ่งนั้นออกไปด้วยความเชื่อมั่นและ (พูดสิ่งนั้นออกไปด้วยความเชื่อมั่น)
Be your own fuckin’ best friend (Oh, be your own, be your own)
ให้ความรักความมั่นใจกับตัวเองเหมือนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด (โอ้ เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดกับตัวเอง)
Say that shit with your chest (Say that shit with your chest)
พูดสิ่งนั้นออกไปด้วยความเชื่อมั่น (พูดสิ่งนั้นออกไปด้วยความเชื่อมั่น)
Keep moving like, “What’s next?”
ก้าวไปข้างหน้าพร้อมยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นประมาณว่า “จะเป็นอย่างไรต่อไป”
Yes, and?
“ใช่ แล้วจะทำไม”
Yes, and?
“ใช่ แล้วจะทำไม”
Say that shit with your chest, and
พูดสิ่งนั้นออกไปด้วยความเชื่อมั่นและ
Be your own fuckin’ best (Be your own) friend
เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดกับตัวเอง (กับตัวเอง)
Say that shit with your chest
พูดสิ่งนั้นออกไปด้วยความเชื่อมั่น
Keep moving like, “What’s next?”
ก้าวไปข้างหน้าพร้อมยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นประมาณว่า “จะเป็นอย่างไรต่อไป”
Yes, and? (Yeah)
“ใช่ แล้วจะทำไม” (ใช่แล้ว)
View this post on Instagram