สิ้นสุดการรอคอย! “keshi” ศิลปินมากความสามารถปล่อยอัลบั้มชุดที่ 2 “Requiem” ออกมาแล้ว พร้อม 13 แทร็กที่เปี่ยมด้วยความหมาย หลังสร้างความตื่นเต้นให้แฟน ๆ ไปแล้วทั่วโลกในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา “keshi” นักร้อง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ และนักดนตรีมากความสามารถจากเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส ก็ปล่อยอัลบั้มชุดที่ 2 “Requiem” ออกมาให้ทุกคนได้ฟังกันแล้ว!

ตั้งแต่ซิงเกิลแรกที่ปล่อยออกมาอย่าง 'Say' บทเพลงแนวซิตี้ป๊อปสุดละมุน จนถึงการปล่อยอัลบั้มเต็มเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า "keshi" ตั้งใจเรียบเรียงบทเพลงทุกเพลงออกมาอย่างซื่อตรง เป็นตัวของตัวเอง และส่งผ่านอารมณ์ได้เป็นอย่างดี

Eazy FM 102.5 ได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน South East Asia Press Conference ทาง ZOOM กับ keshi เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่เขาจะปล่อย 'Requiem' ออกมา ซึ่ง keshi เข้าร่วมงานด้วยลุคสบาย ๆ พร้อมพูดคุยกับสื่อทุกคนอย่างอารมณ์ดี เล่าถึงเรื่องราวของการทำอัลบั้มนี้ จนถึงทัวร์คอนเสิร์ตที่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งเวิล์ดทัวร์ และคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า เราเก็บประเด็นที่น่าสนใจมาฝากทุกคนกันค่ะ พร้อมแล้วมาติดตามอ่านกันได้เลย!

 
keshi: สวัสดีครับทุกคน หวังว่าเวลาจะไม่แตกต่างกันเกินไปนะครับ ทางผมโอเคมาก ปกตินอนดึกอยู่แล้วประมาณเที่ยงคืน แต่ถ้าทุกคนโอเค ผมก็โอเคครับ!

Q: อัลบั้มแรกของคุณ ถูกปล่อยออกมาในปี 2022 ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรบ้างคะ กับการปล่อยอัลบั้มล่าสุดนี้ 'Requiem' มีอะไรที่คุณแชร์กับเราได้บ้าง บ้างระหว่างการทำอัลบั้มนี้คะ?

keshi: แน่นอนครับ ผมตื่นเต้นมากกับการปล่อยอัลบั้มนี้ ผมชอบที่จะใช้เวลาค่อย ๆ ทำ และผมเป็นคนที่ค่อนข้างใช้เวลาในการแต่งเพลง ผมจะแต่งเพลงต่อเมื่อผมรู้สึกถึงแรงบันดาลใจ ดังนั้นรอบนี้มันจึงเป็นขั้นตอนอย่างค่อยเป็นค่อยไปครับ ผมได้เรียนรู้เยอะเลยจากคนรอบตัวที่ผมได้ร่วมงานด้วย และมันก็มีช่วงเวลาที่น่าจดจำเยอะมาก แต่สิ่งที่ผมชอบที่สุดก็คือช่วงกลางคืนกับเพื่อนรักของผม หลังจากเราทำงานเสร็จ ได้ทานข้าวด้วยกัน นั่งคุยกัน หลังจากเราเพิ่งร่วมกันทำบางสิ่งที่น่าตื่นเต้นด้วยกัน ได้ฟังเดโม่ในรถระหว่างเดินทาง มันทำให้รู้สึกเหมือนเป็นวันพักผ่อนที่ทำงานไปด้วย แปลกดีนะครับ

Q: ทำไมคุณถึงตั้งชื่ออัลบั้มนี้ว่า 'Requiem' คะ

keshi: Requiem เป็นคำเฉพาะในดนตรีคลาสสิค เป็นชื่อสำหรับเพลงที่มักจะนำไปเล่นในงานศพ หรือเล่นเวลาที่การสูญเสียเกิดขึ้น มันเหมือนเพลงที่ใช้เวลาที่มีใครบางคนจากเราไป และผมก็เจอกับการสูญเสียในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ผมได้แต่งเพลงถึงประสบการณ์นั้น ผมเขียนไว้หลายเพลงเลย และชื่อนี้ มันบรรยายถึงสิ่งที่ผมเจอได้ใกล้เคียงที่สุด ผมรู้สึกว่าผมอยากตั้งชื่อนี้ เพราะมันได้เปลี่ยนมุมมองของผม ทั้งในการจัดการเวลาของตัวเอง ในการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่าง ๆ และในการรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ อย่างขีวิตคนเรามันสั้นกว่าที่คิดนัก บางครั้งเราก็มองข้ามบางสิ่งไป นี่แหละครับผมจึงตั้งชื่อเพลงนั้น และมันก็กลายมาเป็นชื่ออัลบั้ม

Q: คุณชอบเพลงไหนที่สุดในอัลบั้ม 'Requiem' คะ?

keshi: เพลงที่ผมชอบที่สุดในอัลบั้ม 'Requiem' เป็นหนึ่งในซิงเกิลที่ปล่อยออกมาแล้วครับ ชื่อเพลง 'Dream' มันเป็นเพลงที่เรียบง่ายมาก แต่อัดแน่นไปด้วยอารมณ์ ซึ่งผมภูมิใจกับมันมาก ๆ ผมคิดว่าการเขียนเพลงนี้มันกระชับและชัดเจนดีมาก แต่ก็มีพาร์ทที่หักมุมเล็กน้อยซ่อนอยู่ในเนื้อเพลงถ้าคุณฟังดี ๆ

อย่างในท่อนแรก จะพูดถึงว่าเธอดีอย่างนั้น เธอดีอย่างนี้ แต่มันจะค่อย ๆ เผยออกมาระหว่างทางที่คุณฟังเพลงนี้ว่า คุณกำลังพูดถึงคนที่คุณอยากจะอยู่ด้วยตลอดเวลา คุณกำลังบรรยายถึงคนนั้นกับคนที่คุณอยู่ด้วย และผมคิดว่าการที่ผมสามารถบรรยายสิ่งนี้โดยใช้คำแค่ไมกี่คำได้ เป็นสิ้งที่ผมภูมิใจมาก ๆ และเพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายที่ผมแต่งสำหรับอัลบั้มนี้เลย เหมือนลูกคนเล็กอ่ะครับ ลูกคนเล็กมักจะได้รับความรักมากที่สุดเสมอ :)

Q: คุณคิดว่ามุมมองในการแต่งเพลงของคุณพัฒนาขึ้นจากเดิมไหมคะ?

keshi: แน่นอนครับ อันที่จริงคำถามนี้ดีมาก ๆ เลยครับ เพราะผมคิดว่ามันเป็นบางสิ่งที่ถูกมองข้าม เวลาที่คุณถามศิลปินถึงผลงานต่อไป คุณอาจจะคิดไม่ถึงเรื่องอย่างการพัฒนาตัวเอง หรือความพยายามในการสร้างสรรค์งานศิลปะที่ดีขึ้น อาจจะคิดแค่ว่าพวกเขาพยายามทำสิ่งใหม่ ๆ หรือสิ่งที่ต่างออกไป แต่ผมมักจะเรียนรู้เรื่องการขัดเกลาการเขียนเพลงของผมเสมอ และพัฒนาเรื่องโปรดักชั่น รวมทั้งการอัดเพลง อย่างพวกงานเอนจิเนียร์ มันก็เป็นเหมือนงานศิลปะเช่นกันนะครับ

สิ่งที่ผมรู้สึกสนุกที่สุดคือการได้พัฒนาเรื่องการใช้คำศัพท์ รวมทั้งพวกคำทางเทคนิคต่าง ๆ ผมชอบนะครับ และก็ได้เรียนรู้เยอะขึ้นเรื่องการทำเมโลดี้ที่ตราตรึง ผมค้นหามันได้ไวขึ้น รู้ว่าอะไรที่ควรเก็บไว้ และอะไรที่ควรทิ้ง ผมทำได้ดีขึ้น และแยกแยะมันได้เร็วขึ้น ผมคิดว่าหูของผมไวขึ้นมากครับ

Q: การเตรียมตัวเรื่องทัวร์เป็นอย่างไรบ้างแล้วคะ?

keshi: โอ้ เยี่มมเลยครับ การเตรียมตัวเป็นไปอย่างราบรื่น เราเตรียมคอนเทนต์เด็ด ๆ ไว้เพียบเลย วงดนตรีก็ฟังดูเยี่ยมยอดมาก สำหรับผมแล้ว สิ่งที่ผมอยากจะให้ทุกคนได้สัมผัสกับทัวร์ครั้งนี้คือ 'ประสบการณ์' ครับ การฟังเพลงและดนตรีแบบสด ๆ

อย่างทัวร์ครั้งก่อน เราจำเป็นต้องลดทอนบางอย่างลง และกลายเป็นว่ามันต้องใช้กำลังมากกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก ดังนั้นสำหรับทัวร์ครั้งนี้ ผมก็เลยพยายามคิดว่า ทำยังไงให้การจัดการ และเปลี่ยนถ่ายมันไม่ยุ่งยาก และราบรื่น รวมทั้งกับวงดนตรีของผม ทำยังไงให้พวกเขาโดดเด่นขึ้น ตอนนี้ทุกอย่างกำลังไปได้ดีมาก ๆ เลยครับ และผมก็ตื่นเต้นมาก ๆ ที่ได้แชร์กับทุกคนว่ากำลังเตรียมอะไรอยู่บ้าง

Q: คุณกำลังจะมีคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยในปีหน้า (26 กุมภาพันธ์ 2025) 3 สิ่งที่คุณอยากทำเมื่อคุณมาถึงกรุงเทพฯ คืออะไรบ้างคะ? [คำถามจาก Eazy FM 102.5]

keshi: โอ้ ผมอยากทำทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวจะทำเมื่อไปถึงประเทศไทย ซึ่งผมไม่เคยได้ได้ทำ ผมมีเพื่อนสนิทที่เป็นคนไทย พวกเขาพาผมไปที่บ้าน และพาไปเที่ยวที่ต่างๆ และผมก็ได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่ผมอยากทำ

ผมอยากไปดูช้าง และผมก็อยากลองขึ้นรถตุ๊กตุ๊กด้วยครับ ผมยังไม่เคยได้ลองขึ้นเลย ผมอยากลองมาก ๆ แล้วก็ทานอาหารโปรดของผม อาหารไทยที่ผมชอบมากก็คือ 'ก๋วยเตี๋ยวเป็ด' ผมชอบทานก๋วยเตี๋ยวอยู่แล้ว เป็นอาหารที่ผมกินมาตั้งแต่เล็ก ซึ่งผมมักจะกินเส้นบะหมี่ และเพราะผมเป็นคนเวียดนาม ผมชอบทานเฝอ และสำหรับก๋วยเตี๋ยวในไทย พวกคุณมีเส้นหลายอย่างเลยใช่ไหมครับ ผมอยากจะลองทานมาก ๆ ตอนที่ผมไปที่ประเทศไทย

Q: นอกเหนือจากการปล่อยอัลบั้มนี้ คุณได้ฉลองความสำเร็จ หรือมีเหตุการณ์สำคัญอะไรเกิดขึ้นบ้างในปีนี้ รวมทั้งมองไปข้างหน้า คุณมีเป้าหมายอะไรต่อจากนี้?

keshi: โดยส่วนตัวแล้ว ถ้าเป็นเรื่องของความสำเร็จ เรามักจะนึกถึงตัวเลขต่าง ๆ งั้นเรามาพูดถึงเรื่องนี้กันก่อน ผมได้ขึ้นแสดงที่สถานที่ที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นที่เซี่ยงไฮ้ ผมจำไม่ได้ว่ามันใหญ่ขนาดไหน แต่มันเป็นอารีน่าเต็มรูปแบบเลย และยิ่งสถานที่ใหญ่แค่ไหน เวลาที่คุณมองไปที่ผู้ชมมันจะยิ่งมืด เพราะอย่างแรกเลย ไฟจะส่องมาที่คุณและคุณจะมองไม่เห็นอะไรเลย และผมชอบขอให้แฟน ๆ เปิดไฟที่มือถือ ปกติมันก็จะเป็นเหมือนกำแพงไฟอยู่หน้าคุณ เห็นเป็นเหมือนกลุ่มดาว แต่ครั้งนี้กำแพงไฟมันเป็นเหมือนห่วงพาราโบลาล้อมรอบคุณเลย สว่างมาก ๆ มันน่าเหลือเชื่อไปเลยครับ และนั่นคือหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญของผม

สำหรับชีวิตส่วนตัว ผมกำลังจะอายุ 30 ซึ่งเป็นอะไรที่บ้ามาก ๆ ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่มักจะกังวล แต่ผมกลับตื่นเต้นไปกับมัน ผมคิดว่าผมมีประสบการณ์มากพอที่จะไม่รู้สึกแปลกแล้วที่จะก้าวสู่วัย 30 แบบคนทั่วไปคงจะรู้สึกว่า ไม่ได้ละ ฉันกำลังจะหมดเวลา ไม่ใช่ว่าผมไม่คิดแบบนั้นนะ แต่ผมรู้สึกภูมิใจกับสิ่งที่ได้ทำ และผมก็อยากจะโตขึ้นอย่างสง่างามและภาคภูมิ

Q: สุดท้ายนี้ ขอถามในนามแฟนคลับของคุณจากทั่ว South East Asia ยังมีบางเพลงที่ไม่ได้ถูกรวมอยู่ในอัลบั้มนี้ ดังนั้นพวกเรามีหวังที่จะได้ฟัง Deluxe Version ในเร็วๆ นี้ไหมคะ?

keshi: ไม่แน่ใจว่าผมจะตอบคำถามนี้ได้ไหม จริง ๆ ต้องถามทีมเมเนจเมนท์ผมก่อนแหละ แต่ใช่ครับผมมีเพลงอีกส่วนที่อาจจะ หรืออาจจะไม่ ปล่อยออกมาหลังจากนี้ ซึ่งเพลงเหล่านี้ไม่ได้รวมอยู่ในอัลบั้ม และใช่มันมีเพลงเหล่านั้นอยู่ ตอบได้แค่นี้ครับ

 

 

 

View this post on Instagram

A post shared by keshi (@keshi)

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “keshi” ได้กลายเป็นศิลปินประสบความสำเร็จด้านยอดสตรีมและเป็นที่จับตามองของคนทั่วโลก โดยเขามียอดสตรีม จากผลงานทั้ง 3 EP และอัลบั้มเดบิวต์ “Gabriel” ที่ปล่อยออกมาเมื่อปี 2022 มากกว่า 11,000,000,000 ครั้ง ด้วยพลัง ความแข็งแรงของผลงานเพลงก่อนหน้าของเขาทำให้ “keshi” มีโอกาสเดินทางทัวร์รอบโลกพร้อมบัตรคอนเสิร์ตโซลเอาท์แล้วในหลาย ๆ โชว์ และยังคงเดินหน้ายกระดับ Live Performance ให้ดียิ่งขึ้น และในวันนี้ เขาตอกย้ำด้วยอัลบั้ม “Requiem” ที่ทุกคนจะได้พบกับเขาได้ฐานะเฮดไลน์เนอร์ และเวิร์ลทัวร์รอบโลกที่จัดขึ้นในหลาย ๆ สเตเดียมสุดยิ่งใหญ่ ทั้งในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร สำหรับแฟน ๆ ชาวไทยเตรียมพบกับคอนเสิร์ต “keshi : REQUIEM TOUR IN BANGKOK” ได้ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ซึ่งสามารถหาซื้อบัตรได้แล้ววันนี้ทาง www.thaiticketmejor.com 

ระหว่างนี้ สามารถติดตามฟัง และขอเพลงของ keshi กันเข้ามาได้ทาง Eazy FM 102.5 คลื่นเพลงอันดับ 1 ตัวจริงเรื่องเพลงสากล

ขอขอบคุณ Universal Music Thailand สำหรับการสัมภาษณ์ในครั้งนี้