หลังจากศิลปินระดับตำนาน “Elton John” ปล่อยซิงเกิลสนุกๆ ชวนทุกคนเต้นรำไปกับ “Cold Heart” ที่ได้ร่วมงานกับนักร้องสาวแห่งยุคอย่าง “Dua Lipa” และปล่อยซิงเกิลความหมายลึกซึ้ง “After All” ที่ได้ “Charlie Puth” ศิลปินหล่อซูเปอร์สตาร์มากความความสามารถออกมาให้ทุกคนได้ฟังกันแล้ว ครั้งนี้ถึงเวลาที่ศิลปินระดับตำนาน “Elton John” ประกาศปล่อยอัลบั้ม “The Lockdown Sessions” ที่ประกอบไปด้วยเพลงทั้งหมด 16 เพลง ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพจากศิลปินชื่อดังทั่วโลก พร้อม MV เพลงใหม่ล่าสุด “Always Love You”  พร้อมกันในวันที่ 22 ตุลาคมนี้!

 

จุดเริ่มต้นของอัลบั้มที่น่าจับตามองที่สุดของ “Elton John” ที่มีชื่อว่า “The Lockdown Sessions” เกิดจากสถานการณ์การการแพร่ระบาดของโรคโควิดที่ผ่านมา ส่งผลให้ในเดือนมีนาคมปี 2020 ทัวร์คอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่ของเขา “Farewell Yellow Brick Road” ของเขาจำเป็นต้องหยุดพักชั่วคราว แต่ในขณะที่ทั่วโลกนั้นหยุดนิ่งลง “Elton John” กลับสนุกไปกับการได้รู้จักศิลปินใหม่มากมายผ่านทางรายการ “‎Rocket Hour” จากทางสตรีมมิ่งดนตรีระดับโลกอย่าง “Apple Music” นั่นเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้อัลบั้ม “The Lockdown Sessions” นั้นเสร็จสิ้นออกมาได้อย่างสวยงาม อีกหนึ่งความพิเศษในอัลบั้มนี้เราจะได้เห็น “Elton John” ในด้านที่ไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน พร้อมทั้งชวนทุกคนหวนนึกถึงความหลังสมัยที่เขาเคยเป็นนักดนตรีในสตูดิโอ ซึ่งในระหว่างที่โควิดเกิดการแพร่ระบาดนั้นส่งผลให้การทำงานระหว่างศิลปินนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ตัว “Elton John” ทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่และผลลัพธ์ที่ทุกคนจะได้ฟังต่อจากนี้ก็ออกมาสมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก

 

 

สำหรับอัลบั้ม “The Lockdown Sessions” จะพาทุกคนสนุกไปกับแนวเพลงหลากหลายสไตล์ อย่างเพลงสุดฮิตที่เพิ่งปล่อยออกมาเพลงอย่าง “Cold Heart” นั้นยังคงเป็นที่ฮอตฮิตอย่างต่อเนื่องและฮิตไปทั่วโลก  อีกทั้งในซิงเกิลต่อมา “After All”  ที่เขาได้ร่วมงานกับ “Charlie Puth”  ก็ผสมผสานแนวเพลงบัลลาดทรงพลังและเสียงประกอบของเปียโนไฟฟ้าที่เข้ากันกับเพลงอันยอดเยี่ยม นอกจากนั้นเรายังจะได้เห็น “Elton John” ทำงานร่วมกับศิลปินมากความสามารถจากหลากหลายยุค ที่สามารถพูดได้เลยว่ามีแค่เขาเองเท่านั้นที่สามารถจะทำมันออกมาได้ โปรเจ็คนี้มีความท้ายทายที่สุดเท่าที่ “Elton John” เคยทำมา มีศิลปินมากกว่า 20 คนที่เป็นส่วนหนึ่งของอัลบั้ม “The Lockdown Sessions” มีความหลากหลายทั้งแนวเพลงและวัฒนธรรม แต่ละเพลงนั้นมีสไตล์เฉพาะตัวและรับประกันได้เลยว่าจะเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่น่าจดจำที่สุดไปตลอดกาลอย่างแน่นอน