“Niall Horan” ปล่อยซิงเกิลใหม่ล่าสุด “Heaven” เพลงรักฟีลกู้ด หนึ่งในโฟกัสแทร็กจากอัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 3 ที่กำลังจะมาถึงอย่าง “The Show” แพลนปล่อยให้แฟนเพลงได้สตรีมมิ่งพร้อมกัน 9 มิถุนายนนี้ และนับว่าเป็นการหวนคืนวงการในรอบ 3 ปี หลังจากที่ปล่อยอัลบั้มก่อนหน้าอย่าง “Heartbreak Weather” ที่ติดอันดับท็อปชาร์ตเมื่อปี 2020 สำหรับซิงเกิลแรกอย่าง “Heaven” ได้โปรดิวเซอร์อย่าง John Ryan, Joel Little และ Tobias Jesso Jr. มาร่วมงาน โดยพวกเขาได้แต่งเพลงนี้ขึ้นระหว่างการเดินทางอันเงียบสงบไปยังทะเลทรายโมฮาวี ทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย แม้ซิงเกิลนี้จะโดดเด่นด้วยเสียงดนตรีที่ฟังสบาย แต่กลับแอบแฝงไปด้วยความหมายของเพลงที่สื่อถึงการไม่ยอมอยู่ในกฎเกณฑ์ที่สังคมกำหนดตามอำเภอใจ
“Niall Horan” เล่าว่าเพลง “Heaven สื่อถึงการไม่ยอมอยู่ในกฎเกณฑ์ที่สังคมกำหนดตามอำเภอใจ มันมีความกดดันอย่างมาก ที่คนคนนึงจะต้องบรรลุเป้าหมายบางอย่างในช่วงอายุหนึ่ง เช่น คุณต้องแต่งงานในวัยนี้ ซื้อบ้านในวัยนั้น มีลูกในวัยนี้ แต่ผมไม่เคยคล้อยตามความคิดเหล่านั้น ดังนั้นผมจึงอยากเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีที่เราทุกคนควรเลือกโฟกัสการใช้ชีวิตในแบบของเราให้มีความสุข และทำในสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้อง แทนที่จะมานั่งกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้คนคาดหวังจากตัวเรา และมันยิ่งทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเองเลย”
นอกจากนี้ “Niall Horan” กำลังจะไปปรากฎตัวในรายการ “The Kelly Clarkson Show” ในวันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ และเขายังถูกรับเลือกให้เป็นโค้ชคนใหม่ของรายการ “The Voice Season 23” ซึ่งจะออกอากาศตอนแรกในวันที่ 6 มีนาคมนี้ ทาง ช่อง NBC อีกด้วย
สำหรับอัลบั้ม “The Show” ด้าน “Niall Horan” ได้ผสมผลงานในอดีตที่ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบทั่วโลกกับเรื่องราวใหม่ ๆ ของการตามหาตัวตน อัลบั้มนี้ดึงเอาพลังอันน่าหลงใหลจากการใช้ฮาร์โมนีของเขา ผ่านรูปแบบดนตรี alt-pop ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปินสุดไอคอนนิกในตำนานอย่าง Crosby, Stills & Nash, Jackson Browne และสมาชิกคนอื่น ๆ ในแวดวงดนตรียุค 60s และ 70s ใน Laurel Canyon อัลบั้ม “The Show” ได้ John Ryan และ Joel Little มาร่วมโปรดิวซ์
“Niall Horan” แต่งเพลงมาเกือบตลอดชีวิต และเขายังสอนตัวเองเล่นกีตาร์ตั้งแต่ยังเป็นเด็กในไอร์แลนด์ เขาได้ไปดูคอนเสิร์ต Eagles ตอนอายุ 4 ขวบ ซึ่งมันกลายเป็นช่วงเวลาสำคัญในการเปิดรับรู้ถึงความรู้สึกที่ตัวเองชอบ และสร้างความเป็นตัวเองขึ้นมา นอกจากนี้ “Niall Horan” ได้ออกทัวร์ไปทั่วโลกหลายครั้งในฐานะหนึ่งในสมาชิกของวง “One Direction”
เมื่อปี 2560 เขาเปิดตัวผลงานเดี่ยวเต็มตัวกับผ่านอัลบั้ม “Flicker” ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ทำยอดขายได้ระดับ Platinum และติดอันดับท็อปชาร์ต โดยมีซิงเกิลฮิตอย่าง “Slow Hands” ต่อด้วยอัลบั้มที่ 2 อย่าง “Heartbreak Weather” เมื่อปี 2020 ก็ครองอันดับ 1 ยอดขายอัลบั้มสูงสุดของ Billboard และชาร์ตอัลบั้มอย่างเป็นทางการของสหราชอาณาจักร และยังได้รับการยกย่องจาก NPR, Rolling Stone และนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ คือการเข้าสู่ยุคใหม่กับอัลบั้ม “The Show” เป็นผลงานที่เกิดจากการเดินทางอันยาวนานของหนุ่ม “Niall Horan” และความมุ่งมั่นที่จะสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มแฟนเพลงของเขาทั่วโลกอีกด้วย