listen live


NEXT :
PREV :
/ NEWS /

Interview with Club Mild วงอินดี้สิงคโปร์น่าจับตามอง เจ้าของซิงเกิ้ลที่กำลังมาแรง 'Sun Gazer'

Oct 26, 2023 / ดู 750 ครั้ง

Eazy FM 105.5 มีบทสัมภาษณ์สุดเอ็กคลูซีฟจาก David Siow, Tan Peng Sing และ Paddy Ong สามสมาชิกวงอินดี้สิงคโปร์ Club Mild ที่เพิ่งปล่อยซิงเกิ้ลล่าสุดอย่าง “Sun Gazer” ไปเมื่อเร็วๆ นี้ หลังพวกเขาได้รับรางวัล Top Local English Pop Song และ Young Artiste of the Year จากงาน COMPASS ประจำปี 2018 ไปจนถึงการเดินสายแสดงคอนเสิร์ตของวงทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน และสเปน พร้อมทั้งเคยร่วมแสดงบนเวทีเดียวกับวงชื่อดังอย่าง Walk the Moon, Travis, Last Dinosaurs และ Death Cab for Cutie อีกด้วย จะเป็นอย่างไรไปติดตามกันเลย!


จุดเริ่มต้นของวง Club Mild

David: เริ่มแรกวงของเราเจอกันจากที่เรียนคณะศิลปะเหมือนกัน ต่อมาแพดดี้ก็เข้ามาเป็นนักร้องให้กับวง และตอนนี้เราก็กลายมาเป็นเพื่อนกันและทำวงดนตรีเรื่อยมา เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ ครับ!

ที่มาของเพลง “Sun Gazer”

Paddy: เป็นเพลงเกี่ยวกับการยอมรับความเสียใจในอดีตและไม่ปล่อยให้ความกลัวที่จะทำผิดซ้ำอีกในอนาคตมาบั่นทอนการใช้ชีวิตในปัจจุบัน นอกจากนี้เรายังต้องการให้มันเป็นเพลงที่สนุกสนานและมีพลังในการเล่นสด นั่นคือสิ่งที่เราตั้งใจวางไว้ในเพลงนี้


พวกคุณแต่ละคนมีส่วนร่วมในการทำเพลงยังไงบ้าง?

David: ผมจะใช้วิธีเปรียบเทียบเหมือนกับการเล่นเกม MOBA แล้วกันนะครับ!
- แพดดี้เป็นตัวละครนักสู้ ด้วยแนวคิดของเขา เขาพัฒนาอัตลักษณ์ของวง ทั้งการสร้างแบรนด์และรูปลักษณ์ รวมถึงการทำวิดีโอและเพลงส่วนใหญ่ก่อนการผลิต

- เป็งเป็นจอมเวทย์ เพราะเขามีพลังเวทย์มนตร์มาก เขามักจะคิดวิธีที่ชาญฉลาดในการโปรโมตวงและทำให้เพลงของเราปรากฏในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง

- ส่วนผมเดวิดเป็นนักแม่นปืน/มือปืน ที่เข้ามาในเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถสังหารได้ (ในกรณีนี้การสังหารหมายถึง งานแสดง/เทศกาลในต่างประเทศ)

- แพทริค ผู้จัดการทีมของเราคือตัวแทงค์ คอยปกป้องเราอยู่เสมอ และทำให้แน่ใจว่าเรามีทุกสิ่งที่จำเป็นในการเล่นด่านต่างๆ

อิทธิพลทางดนตรีที่โดดเด่นของวง?

Peng Sing: เราเป็นแฟนเพลงวงอินดี้ป๊อปและอินดี้ร็อคในยุค 2000 ยิ่งวงดนตรีที่มีริฟกีตาร์เท่ๆ อย่าง Arctic Monkeys, Bombay Bicycle Club, Last Dinosaurs, Glass Animals และช่วงหลังมานี้ เราได้รับอิทธิพลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ พวก DnB และ house มาอย่างมากเลยครับ


คุณเคยมาแสดงคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยครั้งหนึ่งในปี 2019 คุณจำบรรยากาศตอนนั้นได้มั้ย เป็นยังไงบ้าง?

David: ใช่ครับ เราเคยเล่นที่งาน Bangkok Music City ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2019 พวกเรารู้สึกชื่นใจมากๆ ที่ได้เห็นแฟนเพลงออกมาร้องเพลงกับเรา และเราก็ยังรู้สึกประทับใจกับวงดนตรีไทยที่มีคุณภาพมากๆ นอกจากนี้เรายังได้ร่วมงานแสดง Fungjai’s Borderless 2 ในเดือนมีนาคม ปี 2019 กับวง S.O.L.E อีกด้วย พวกเขาน่าทึ่งมาก!

Paddy: ผมนึกถึงเบียร์ LEO ในงาน Borderless ครับ 5555 มันทำให้ผมตื่นตัวดีครับ แต่ก็ตามมาด้วยอาการเมาค้างหลังจากนั้น…อ๊ะ อีกความทรงจำที่รู้สึกดีคือจากทุกคนในกลุ่มผู้ชมในการแสดงทั้งสองครั้ง และแน่นอนว่าเราจบท้ายกันด้วยอาหารมื้อดึกที่ร้าน เบียร์หิมะ (Beer Hima) ด้วยครับ

คุณมีแผนอย่างไรในช่วงที่เหลือของปี?

David: เรามีงานแสดงที่ Monsoon Music Festival ในฮานอยช่วงกลางเดือนตุลาคม ควบคู่ไปกับเทศกาลและคอนเสิร์ตอื่นๆ ในสิงคโปร์ ระหว่างนี้เราจะยังคงเขียนเพลงสำหรับอัลบั้มต่อไป!

ปัจจุบันนี้ผู้ฟังส่วนใหญ่ไม่ได้ฟังเพลงตามลำดับอัลบั้มแล้ว เพราะว่าพวกเขาเลือกฟังจากสตรีมมิ่ง คุณพอจะบอกถึงธีมอัลบั้มใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ให้ฟังได้หรือไม่?

David: เราตัดสินใจยืนหยัดในเพลง “Sun Gazer” โดยเพลงนี้มีความยาว 7.5 นาทีเต็ม ใน 1 เพลง ซึ่งแทนที่จะเป็น 2 เพลง เพราะเราอยากให้ผู้คนได้สัมผัสภาพรวมทั้งหมดของเพลงนี้!

Paddy: เนื้อเพลงหลายเพลงจะมีธีมเกี่ยวกับการสร้างสันติภาพให้กับตัวเองและเรียนรู้วิธีจัดการกับปีศาจร้ายภายในตัวคุณ เป็นคำแนะนำของผู้ใหญ่ที่คุณต้องการเมื่อตอนเป็นเด็ก ในด้านดนตรีเราใส่สไตล์กีตาร์-ป็อปอินดี้ในแบบของเรา รวมถึงแนวเพลงอื่นๆ ที่เราชอบมานานหลายปี


เพลงอะไรที่เป็นแรงบันดาลใจให้คุณก่อตั้งวงดนตรี? และตอนนี้คุณฟังเพลง / วงดนตรี / ศิลปินอะไร (และพวกเขามีอิทธิพลต่อทิศทางของคุณยังไง)?

Peng Sing: เพลงแรกที่เราคัฟเวอร์คือ “Undercover Martyn” ของ Two Door Cinema Club มันเป็นเพลงที่เราใช้ในการแข่งขันวงดนตรีในมหาวิทยาลัย เราคว้าอันดับที่ 2 มาได้ และจนถึงวันนี้เรายังคงเล่นเพลงนี้บ้างในบางโอกาส เวลาที่เราได้เจอกลุ่มแฟนเพลงที่ติดตามเรามาอย่างยาวนาน

สุดท้ายนี้อยากฝากอะไรถึงแฟนเพลงชาวไทย?

David: เราอยากกลับไปแสดงที่นั่นอีกครั้ง! อยากให้แฟนเพลงไทยช่วยแชร์เพลง กระจายข่าวของพวกเรา เพื่อที่เราจะได้ไปแสดงที่นั่นอีกครั้ง!

Paddy: เรารักประเทศไทย! มีคนไทยที่มีความสามารถจำนวนมากที่บุกเบิกประสบการณ์ใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ ที่พรอ้มจะแสดงให้โลกเห็นว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอะไรบ้าง เราหวังว่าจะมีงานแสดงในประเทศไทยให้มากขึ้น และแน่นอนว่าจะได้กินอาหารอร่อยสุดพิเศษที่นั่น!





.:: ข่าวอื่นๆ