listen live


NEXT :
PREV :
/ NEWS /

สัมภาษณ์พิเศษกับศิลปิน นักแต่งเพลง Labit เจ้าของเพลงซึ้งๆ อย่าง 'Someday Faraway'

Sep 19, 2024 / ดู 162 ครั้ง

Stephen Ordoñez นักดนตรี ศิลปิน นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ความสามารถรอบด้านจากลอสแอนเจลิส ที่มีผลงานเพลงมากมายหลากหลายแนวทั้งป๊อป ร็อค และ R&B นอกจากนี้เขายังแต่งเพลงให้กับศิลปินอินดี้มากมายอาทิ Mario, Emei, BYRNE, Jaira Burns และ andreas owens

นอกเหนือจากผลงานด้านการแต่งเพลงแล้ว เขายังทำโซโล่โปรเจคต์ของตัวเองในนามของ 'Labit' โดยเขาเพิ่งปล่อย Deluxe เวอร์ชั่นของอัลบั้มเดบิวต์ของเขาออกมา โดยใช้ชื่อว่า 'I Bet It's Still All A Dream' ผลงานเพลงป๊อป R&B ที่โดดเด่นของเขา

 

 

Eazy FM มีโอกาสได้พูดคุยกับ Labit ผ่านการสัมภาษณ์ทางอีเมล์ ถึงผลงานของเขารวมทั้งเพลงที่กำลังเป็นกระแสในไวรัลอย่าง "Someday Faraway" โฟกัสแทร็คของอัลบั้มนี้ มาทำความรู้จักกับศิลปินมากความสามารถคนนี้กันให้มากขึ้นผ่านบทสัมภาษณ์นี้กันค่ะ

Eazy FM: สวัสดีจากประเทศไทยค่ะ! ก่อนอื่นเลยอยากให้คุณทักทายแฟนๆ ชาวไทยหน่อยค่ะ
Labit: สวัสดีครับทุกคน! ผมขอขอบคุณทุกคนจากก้นบึ้งของหัวใจเลย ขอบคุณมากๆ ที่ฟังเพลงของผม และสนับสนุนผมมาโดยตลอด

Eazy FM: เราอยากให้คุณเล่าให้เราฟังหน่อยค่ะว่า 'Labit คือใคร?'
Labit: ชื่อจริงของผมคือ Stephen แต่ผมใช้ชื่อในวงการว่า 'Labit' ผมได้ชื่อนี้มาจากนามสกุลก่อนแต่งงานของคุณแม่ผม และครอบครัวคือทุกสิ่งทุกอย่างของผม ผมเป็นชาวฟิลิปปินส์-อเมริกัน และตอนนี้ผมก็อาศัยอยู่ที่ลอสแอนเจลิสครับ!

 

 

Eazy FM: ก่อนที่เราจะคุยกันถึงเรื่องงานเพลงของคุณ อยากให้คุณเล่าให้ฟังหน่อยค่ะว่าคุณเริ่มต้นอาชีพในวงการดนตรีได้อย่างไร?
Labit: ดนตรีคือส่วนสำคัญในชีวิตวัยเด็กของผมเลย พ่อแม่ของผมรักดนตรีมาก ทุกรูปแบบเลย และผมรู้สึกขอบคุณพวกเขามากๆ (รวมทั้งพี่สาวผมด้วย) ที่แสดงให้ผมเห็นความงดงามของดนตรีในทุกๆ ด้าน

เพื่อนรักของพ่อผมเป็นคนซื้อกีตาร์ตัวแรกให้ผมตอนอายุ 13 ปี และผมก็ตกหลุมรักกับการที่ผมสามารถสื่อสารผ่านเสียงเพลงได้ การได้เขียนความรู้สึกในช่วงวัยมัธยมของผมออกมา เป็นเหมือนการบำบัดของผม และมันก็ยังคงเป็นแบบนั้นจนถึงทุกวันนี้ ผมไม่คิดว่าผมจะมีสติทำอะไรได้ดีสักเท่าไร ถ้าไม่ได้เขียนเพลง

ผมเริ่มตั้งวงดนตรีกับเพื่อนรักของผม และเราก็ออกทัวร์แรกด้วยกันทันทีที่จบมัธยมปลาย แม้ว่ามันจะจบลงสองสามปีให้หลัง แต่ประสบการณ์เหล่านั้นนำพาให้ผม เป็นผมในทุกวันนี้ การได้แต่งเพลงในนามของ Labit และค้นหาความหมายของชีวิต

Eazy FM: คุณได้ร่วมงานกับศิลปินหลายคนเลย ภายใต้ชื่อจริงของคุณ Stephen Ordoñez ก่อนที่คุณจะเริ่มงานโซโล่ในนาม Labit มีโปรเจคต์ไหน หรือศิลปินคนไหนไหมคะที่คุณประทับใจเป็นพิเศษ?
Labit: พูดจริงๆ เลยนะครับ ไม่ได้จะเลี่ยงตอบนะครับ แต่ศิลปินทุกคนที่ผมได้ร่วมงานด้วย มีที่พิเศษในใจผมเสมอ และผมรู้สึกขอบคุณทุกๆ คน และรักทุกเพลงที่เราทำด้วยกัน!

การได้เขียนเพลง 'Backtrack' กับ Emei เป็นอะไรที่สนุกมากเป็นพิเศษ เพราะมันทำให้ผมนึกถึงต้นกำเนิดของผม มันทำให้ผมนึกถึงครั้งแรกที่ผมได้รู้จักกับ Paramore ตอนที่ยังเด็ก และอยากจะเล่นดนตรีได้แบบนั้น และมันก็วิเศษมากที่ได้เห็นความสำเร็จที่ Emei ได้รับ เพราะเธอเป็นคนที่ทำงานหนักมาก และเธอสมควรได้รับทุกสิ่ง

อีกหนึ่งศิลปินที่ผมเคยร่วมงานด้วย และเป็นที่โดดเด่นก็คือ BYRNE เขาเป็นหนึ่งในเพื่อนรักของผม และเราก็ได้ร่วมกันทำเพลงที่สนุกมากๆ ด้วยกันสำหรับโปรเจคต์ของเขา โดยที่สามารถเล่าเรื่องราวของเขาได้อย่างตรงไปตรงมาที่สุด ผมชอบที่จะประสบความสำเร็จไปด้วยกันกับเพื่อนๆ ของผม 

 

Eazy FM: มาคุยถึงผลงานล่าสุดของคุณบ้าง กับซิงเกิล 'Someday Faraway' คุณช่วยเล่าถึงเรื่องราวของเพลงนี้ให้เราฟังหน่อยได้ไหมคะ? คุณอยากสื่อสารอะไรผ่านบทเพลงนี้?
Labit: ก่อนอื่นเลย ขอบคุณมากๆ ที่เปิดเพลงของผมนะครับ! ผมรู้สึกซาบซึ้งมากๆ กับความรักที่ทุกคนมอบให้กับไอเดียเล็กๆ ของผมอันนี้ ผมแต่งเพลงนี้ขึ้นมาพร้อมกับเพื่อนรักที่สุดของผม James Colla และ Becca Kreuger หลังจากที่เพิ่งจบความสัมพันธ์ทางไกล

ผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองอยู่ห่างไกลจากสิ่งที่ผมโหยหาเลยในตอนนั้น ผมเลยอยากจะสื่อออกไปว่า แม้ว่าความสัมพันธ์จะจบลง ผมก็หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกในอนาคตตอนที่หลายๆ อย่างลงตัวและมีเหตุผลกว่านี้ การที่ไม่สามารถจะคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ เป็นสิ่งที่ผมเชื่อว่าทำให้ชีวิตมันน่าค้นหาต่อไป แต่มันก็เป็นอะไรที่น่ากลัว และท่วมท้นมากเกินไประหว่างทางบ้าง ตอนที่คุณต้องเผชิญกับความผิดหวัง อกหัก และความรู้สึกสิ้นหวัง ผมแต่งเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อค้นหาความสงบสุขในที่ที่ไม่มีคนรู้ และตอนนี้ผมก็หวังว่ามันจะช่วยให้บางคนค้นหาสิ่งนี้ได้เหมือนกับผม

 


Eazy FM: คุณเพิ่งปล่อย deluxe version ของอัลบั้มเดบิวต์คุณออกมา ในชื่อ 'I Bet It's Still All A Dream' อยากให้คุณเลือก 3 เพลงจากอัลบั้ม และแนะนำให้กับแฟนๆ ของเราได้ไหมคะ?
Labit: เพลงแรกเลยคือ "Summer Died" ผมแต่งเพลงนี้ขึ้นมาเหมือนกับบทกลอนซะมากกว่า อย่างน้อยก็ในตอนเริ่มต้นนะครับ แต่เสียงริฟฟ์กีตาร์มันมาโดยธรรมชาติในเช้าวันนึง และแม้ว่าเพลงนี้จะไม่มีท่อนคอรัส มันยิ่งทำให้เพลงนี้พิเศษสำหรับผมขึ้นไปอีก มันสามารถสื่ออารมณ์ได้มากกว่าสิ่งใด และมันเกี่ยวกับการค้นหาการจบอย่างสมบูรณ์แบบอ้อมๆ แม้ว่ามันจะไม่มีรูปแบบที่ชัดเจนของบทสรุปกับบางอย่าง แต่นั่นแหละ นั่นคือสิ่งที่ชีวิตให้กับคุณ เล่าแบบสั้นๆ มันเป็นเพลงสนุกๆ ที่คุณเต้นตามได้ ในขณะที่กำลังคิดบางเรื่องไปด้วย

 

 

เพลงต่อมาคือ "Kazunori" ผมแต่งเพลงนี้ตอนที่ย้อนนึกถึงเดทแรกที่พังไม่เป็นท่า และมันก็น่าจะเป็นเพลงที่สนุกที่สุดเท่าที่ผมเคยแต่งและปล่อยออกมาในโลกใบนี้ ท่อนคอรัสที่เล่นใหญ่ ผสมกับท่อนเนื้อเพลงสนุกๆ ในขณะที่แอบโปรโมทร้านโปรดของผมในลอสแอนเจลิสไปด้วย Kazunori เจ๋งมาก! ด้วยความยินดี

 

 

เพลงที่ 3 คือ "We Should Talk Less" เพลงนี้เหมาะสำหรับเวลาที่คุณอยากจะร้องไห้ให้มันสุดๆ ไปเลย ค่อนข้างคล้ายกับ Someday Faraway มันเกี่ยวกับการยุติความสัมพันธ์ ที่ไม่ใช่เพราะคุณอยากทำ แต่เพราะคุณต้องทำ มันยากมากที่อยู่ๆ จะตัดคนคนนึงออกไปจากชีวิต คนที่คุณแชร์ความทรงจำและช่วงเวลาด้วยกันมากมาย และเพลงนี้จะพาคุณไปสำรวจอารมณ์เหล่านั้น น่าจะเป็นเพลงที่ผมชอบที่สุดที่เคยแต่งมาเลยครับ

 

 

Eazy FM: มีโปรเจคต์อะไรในอนาคตที่พวกเราตั้งตารอได้ไหม?
Labit: มีครับ! ขึ้นอยู่กับว่าบทสัมภาษณ์นี้จะออกเมื่อไร! ผมมีแพลนจะปล่อย EP 4 เพลงกับเพื่อนของผม Emma Zander ในช่วงปลายกันยายน-ต้นตุลาคม ผมตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้แชร์โปรเจคต์นี้กับทุกคน เพราะมันเป็นเหมือนสะพานเชื่อมตัวผมในฐานะนักแต่งเพลง และศิลปินเข้าด้วยกัน ผมได้ช่วยเธอแชร์เรื่องราวของเธอในรูปแบบของการ duet และออกมาเป็นเพลงที่ให้ฟีลคล้ายกับพระอาทิตย์ตกดิน

และต้นปีหน้า ผมตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้เริ่มต้นบทใหม่ทางดนตรีของ Labit เรากำลังเตรียมงานอัลบั้มชุดที่สองกัน แบะบางทีอาจจะมี EP ออกมาก่อนสักหน่อย แต่พวกคุณทุกคนตั้งตารอปีหน้ากันได้เลย!

Eazy FM: สุดท้ายนี้มีอะไรอยากบอกกับแฟนๆ ไหมคะ?
Labit: ผมรู้สึกขอบคุณมากๆ ขอบคุณเท่าไรก็ไม่พอจริงๆ ที่ทุกคนฟังเพลงของผม พวกคุณทุกคนคือเหตุผลที่ผมได้มีโอกาสทำสิ่งนี้ และผมรู้สึกขอบคุณตลอดไป จับตาดูทัวร์ของผมด้วยนะ ผมอยากจะพบกับทุกคนต่อหน้าเร็วๆ นี้! รักทุกคนครับ!

 

 

และนี่คือ Labit ศิลปินที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเขามากขึ้น ผลงานที่ลึกซึ้งและสวยงาม แถงยังติดชาร์ตสตรีมมิ่ง Spotify Top 50 ในมาเลเซีย เวียดนาม และสิงคโปร์ รวมทั้งมีการเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงเดือนที่ผ่านมา เขาให้ผลงานของเขานำทาง และเล่าความเป็นตัวตนของเขาผ่านบทเพลง ติดตามผลงานของเขาได้ทาง Youtube: Labit

ขอขอบคุณ Labit และ Secret Signals สำหรับบทสัมภาษณ์ในครั้งนี้
จัดทำ แปล และเรียบเรียงโดย Eazy FM 102.5




.:: ข่าวอื่นๆ