listen live
How Bad Do U ...
LADY GAGA
NEXT :
-
PREV :
Nice To Meet You - IMAGINE DRAGONS
  • พิไลพร ศรีวิชา

    เคยไปร่วมอาสาในกิจกรรมที่ว่าไปให้ความสุขน้องคนพิเศษ น้องพิเศษค่ะ เป็นโรงเรียนประจำและทั้งโรงเรียนเป็นเด็กพิเศษ คือไม่ใช่เฉพาะด้านใดด้านหนึ่งแต่ที่นี่เด็กพิเศษทุกๆอย่างมาร่วมกันหมดและพอได้มาสัมผัสและได้ร่วมทำกิจกรรมกับน้องๆแล้วทึ่งในความสามารถของน้องๆมากเลยค่ะน้องถ้าคนทั่วไปมองอาจจะคิดว่าเป็นเด็กแบบไม่สมบบูรณ์แต่พอได้เห็นน้องทำโน่นนี่น้องเก่งมากทำได้เหใอนคนทั่วไปและที่โรงเรียนสอนอาชีพให้น้องด้วยเพราะพอเรียนจบน้องออกไปสามารถนำไปประกอบอาชีพและทำงานเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ได้รู้และได้เห็นในสิ่งที่เราไม่เคยรู้และเห็นและอึ้งในความสามารถน้องเก่งมากกว่าคนบางคนที่มีครบแต่ไม่ทำ และน้องๆมีความสามัคดีกันดีมากค่ะช่วยเหลือกันแบ่งปันซึ้งในความสามารถ สมแล้วค่ะคนพิเศษกับสิ่งพิเศษ

  • วิธวินท์ อ่ำดวง

    อยากไปมากๆเลยค่ะ รักหมามาก อยากช่วยเหลือในสิ่งที่ช่วยได้และก็ทำมาตลอด น้อยบ้างมากบ้างตามกำลัง ทุกครั้งจะปลื้มใจและมีความสุขมากแค่ได้ให้ ได้ส้มผัส หมาน้อยทั้งหลายเปรียบเสมือนเพื่อนของเราค่ะ นี่คือภาพตอนไปให้อาหารหมาน้อยเกือบ 500 ตัว เสียดายขับรถไม่เป็นและคนที่ขับเป็นก็ไม่มีใบขับขี่ เสียดายมากๆ แต่ขอแบ่งปันภาพประทับใจนะคะ

  • มานิตา ใจกล้า

    ตื่นเต้นกับการบริจาคเลือดครั้งแรกในชีวิต ภูมิใจกับการเป็นผู้ให้ โดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้รับ ถึงแม้จะกลัวเข็ม กลัวเลือด แต่การให้เลือดเป็นอีกทางที่ทุกคนสามารถทำได้เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อีกหลายๆ คน มาครั้งแรกก็ได้เข็มเลย ประทับใจที่สุดค่ะ

  • พีมรดา เชาวนาภรณ์

    ตอนนั้นขับรถมอเตอร์ไซค์ไปพร้อมกับเพื่อนติดไฟแดงประมาณ 30 วินาที เห็นคันข้างหน้าหันไปมองอะไรสักอย่าง ก็เลยหันตามไปเจอน้องคนนึงกำลังเป็นไฮเปอร์นอนอยู่ตรงสถานีตำรวจ พี่ตำรวจเดินไป-มา เหมือนไม่มีใครช่วยน้องได้ ตอนนั้นเหลืออีก 10 วินาที กำลังมองๆน้องคนนั้นอยู่ แล้วก็ตัดสินใจวนรถกลับไป เพื่อปฐมพยาบาลน้องคนนั้น จนน้องเขาอาการดีขึ้น และส่งต่อให้รถพยาบาลมารับไปค่ะ

  • อุมาภรณ์ อยู่สกุล

    ปกติชอบทำบุญแล้วแต่โอกาสและสถานที่ เช่นถวายสารีริกธาติ ผ้าป่าสามัคคีเพื่อสร้างหอปฏิบึติธรรม จัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์แจกเป็นธรรมทาน แต่ทำดีที่ประทับใจที่สุดคือ ในปี 2554 มีน้ำท่วมครั้งใหญ่ เราได้มีส่วนร่วมในการบำเพ็ญประโยชน์โดยการรับอาสาขนอิฐบล็อคจากนครปฐมไปช่วยเพื่อนบ้านที่อยุ่ปทุมธานีและวัดชินวรารามวัดที่เป็นบ้านเกิดของเรา และมีอยู่คืนหนึ่งเรากำลังจะกลับแต่ได้รับข่าวว่าเขื่อนกั้นน้ำที่ปทุมธานีแตก และมวลน้ำกำลังมาบริเวณบ้านอย่างรวดเร็ว พวกเราเลยมีโอกาสได้ไปช่วยกรอกทราย ใส่กระสอบเพื่อทำเขื่อนกั้นน้ำบริเวณวัดชินวรารามทั้งคืนโดยไม่รู้จักเหนื่อย พอเข้า ก็ขอตัวกลับนครปฐม เพราะต้องมาทำงานประจำของตัวเอง แต่ความประทับใจนั้น เราเห็นน้ำใจความสามัคคีของเพื่อนๆ ของหลายๆคนที่ไม่รู้จักแต่ทุกคนมีความพยายามและช่วยกันเป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน มันสุขใจและเป็นความรู้สึกที่ดีที่ประเมินค่าไม่ได้จริงๆค่ะ

  • ดนุพล แก้วธิดา

    นำอาหาร ขนม ยารัษาโรคไปบริจาคให้สุนัขจรจัด ที่เกาะสุนัขของพุทธมณฑลสาย 4 และคิดว่าจะรวมเงินซื้ออาหารจากเพื่อนๆ ไปบริจาคทุกเดือน

  • มนัสนันท์ มงคลกิตติวัฒน์

    เจ้าดิิ๊ก ตูบโดนทิ้ง เป็นตูบข้างบ้านเจ้าของย้ายบ้าน เเต่ไม่เอาดิ๊ดไปด้วย วันหนึ่งด้วยความซนเดินไปเล่นข้ามถนน ปรากฎว่า โดนรถมอเตอรไซด์ชน ขาเวอะ ด้วยความที่คงเจ็บมาก เจ้าดิ๊กมารอหน้าบ้าน พร้อมยกขาที่เจ็บให้ดู คงอยากจะบอกว่าเจ็บนะ เราเเละเพื่อน เลยช่วยกันอุ้มเจ้าดิ๊กไปหาหมอ เจ้าดิ๊กก็ไม่ดื้อเลย ยอมหาหมอเเตโดยดี

  • วัชระ หวลประไพ

    ตัวเองเริ่มทำงานอาสาเพื่อสังคมก็ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์สึนามิ และก็ทำมาเรื่อยๆๆ ทั้งปลูกป่า เก็บขยะ ดูแลเด็กพิเศษ พาน้องพิการทางสายตาไปเที่ยว และอื่นๆๆอีกมากมาย ทุกความดีที่ฉันได้ทำฉันประทับใจแทบทุกอัน เพราะฉันทำด้วยความสุข สุขที่จะมอบ จะแบ่งปันให้คนอื่น แต่ถ้าต้องเลือก ทำดีที่ประทับใจที่สุด คือความดีที่ฉันทำให้กับพ่อแม่ ตั้งแต่เด็กจนเป็นผู้ใหญ่ ฉันไม่เคยทำให้พ่อแม่ต้องทุกใจ ฉันไม่เคยเกเร ไม่เคยมีเรื่องตบต่อย ไม่ติดเหล้าเมายา จนฉันเรียนจบปริญญา เพราะในบรรดาพี่น้อง ฉันเป็นคนเดียวที่เรียนจบรับปริญญา ฉันบวชพระให้ท่านได้เกาะชายผ้าเหลือง จนฉันทำงานฉันก็ให้เงินท่านทุกเดือน และคอยหาข้าวปลาอาหารให้ท่านเสมอ เมื่อมีโอกาศ ฉันไม่รู้หลอกว่าใครจะคิดยังไง แต่ฉันรักท่านทั้งสองมาก และพร้อมจะดูแลท่านจนท่านแก่เฒ่า จะไม่ทอดทิ้งท่านทั้งสอง ในเมื่อฉันสามารถทำเพื่อคนอื่นได้ ฉันก็จะต้องทำให้พ่อแม่ฉันได้เช่นกัน และนี้แหละคือความดีที่ฉันประทับใจที่สุด

  • จิตรลดา จิตตะนาวิก

    ตอนจบ ม.6 เคยจะสอบตรงเข้าคณะฯแพทย์ เพราะอยากเป็นหมอจะได้มีโอกาสช่วยเหลือและรักษาคนอื่น ก็ลองไปยื่นใบสมัครสอบ แต่ทางคณะฯ ให้นำใบรับรองการฝึกงานจากที่ รพ. มายื่นด้วย แม่ก็เลยฝากคุณพยาบาลที่รู้จักให้พาเราไปฝึกงานที่ รพ. แถวบ้าน ซึ่งต้องฝึกเป็นระยะเวลา 1 เดือน แต่เราไปฝึกงานได้วันเดียวเอง เพราะวันแรกก็เจอเคสผ่าคลอดเลย คุณหมอก็ให้เราเปลี่ยนชุดเข้าไปดูด้วย คุณหมอผ่าท้องโดยใช้มีดผ่าตัดกรีดไปทีละชั้น ๆ เราก็มองตามอย่างตั้งใจ พอถึงชั้นไขมัน มอง ๆ ไปก็คิดไปว่าคล้าย ๆ ไขมันหมูเนอะ มีเลือดค่อย ๆ ไหลซึมด้วย นั่นคือภาพสุดท้ายที่จำได้และทุกอย่างก็มืดไป รู้ตัวอีกทีก็ลงไปนั่งพิงข้างฝาอยู่มุมห้อง โดยมีคุณพยาบาลประคองไว้และให้ดมแอมโมเนีย พยาบาลบอกว่าเราเป็นลมหมดไป พออาการดีขึ้น เราก็ขอคุณหมอออกไปรอนอกห้องเลย จากเหตุการณ์นี้เอง ทำให้เราคิดได้ว่าอาชีพหมอคงไม่ใช่เส้นทางของเรา เราจึงหันเหชีวิตไปเรียนสายบัญชีแทน เมื่อจบก็ทำงานบัญชีที่เอกชนบริษัทเอกชน ชีวิตก็รีบร้อน อยู่กับตัวเลขกับคอมพิวเตอร์ไปวันวัน จนเพื่อนชวนไปทำงานด้วยกันที่ รพ. แห่งหนึ่ง เราก็ไปลองสมัครดู ในที่สุดก็ได้งาน ทุกวันที่ทำงานใน รพ. เราจะรู้สึกดีมาก บอกตัวเองเสมอว่า ถึงเราจะไม่ได้เป็นคุณหมอที่ช่วยเหลือ รักษาคนไข้ แต่เราก็ภูมิใจนะ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานที่เป็นเหมือนกองสนับสนุนของคุณหมอ ก็ถือว่าได้ช่วยคนอื่นโดยทางอ้อมเหมือนกัน ได้มีโอกาสบอกทางคนไข้ที่กำลังหลงทาง นอกจากนั้น ทุกปีถ้าร่างกายเราเอื้ออำนวย คือ ความดันเกิน 100 และเลือดไม่ลอย ก็จะนำพาตัวเองไปบริจาคเลือดที่หน่วยรับบริจาคของ รพ. ก่อนมาทำงาน รพ. ก็ไม่เคยคิดบริจาคนะ เพราะเป็นคนกลัวเข็มและเลือดมาก และคิดไปเองว่ามีคนบริจาคเยอะแล้ว บริจาคไปเลือดเราก็อาจไม่ได้ใช้ เจ็บตัวเปล่า ๆ แต่เมื่อได้มีโอกาสทำงานที่ รพ. ก็ทำให้ได้ทราบข้อมูลและความจริงว่า ปัจจุบันเลือดยังขาดแคลน โดยเฉพาะช่วงเดือนมกราคม และเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยจะขาดแคลนมาก และสมัยนี้เลือดที่เราบริจาคก็จะมีวิธีการเก็บรักษาไว้ใช้ได้สักระยะ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ใช้นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปแลกเปลี่ยน/มอบให้กับหน่วยบริจาคเลือดอื่นที่ขาดแคลนได้ด้วย เราจึงได้คิดว่าการบริจาคเลือดเจ็บแค่แป๊บเดียว บางครั้งการได้เจ็บบ้างก็ดีนะ ดีกว่าไม่รู้สึกอะไรเลย เจ็บนิด ๆ หน่อย ๆ แต่เลือดของเรามีโอกาสช่วยคนอื่นได้ก็ถือว่าคุ้ม แม้เลือดเราจะไม่ได้ใช้ก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการฝึกจิตใจตนเองให้รู้จักเป็นผู้เสียสละ เห็นแก่ประโยชน์ของผู้อื่นเป็นที่ตั้ง สุดท้ายนี้ จึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมทำดีโดยการบริจาคเลือดกันค่ะ และก็จะได้พบความประทับใจ อิ่มเอมใจที่ไม่รู้ลืมเหมือนฉัน

  • ศิลป์ศรุต บุญศิริ

    เอาเสื้อผ้าที่เราใส่อยู่ปกติทุกวันไปบริจาคให้คนที่ประสบภัยน้ำท่วม เพราะพวกเขาคงต้องย้ายตัวเองออกมาและคงจะขนสัมภาระได้เท่าที่จำเป็น ส่วนเสื้อผ้าของเราอีกหน่อยก็สามารถหาซื้อใหม่ได้

  • กัณธราภัทธิ์ โศจิศิริกุล

    ที่สุดของการให้คือ..รอยยิ้มของผู้รับ วันนั้นไปจัดกิจกรรม เล่นเกมส์ แจกรางวัล เลี้ยงอาหาร เต้น ร้องเพลง(เพี้ยนๆ)ให้น้องๆฟัง ความรู้สึกของวันนั้นคิดตลอดเวลาว่าเราโชคดีแค่ไหนที่เกิดมาพร้อมทุกอย่าง ถ้าเป็นไปอยากให้น้องๆมีความรู้สึกแบบเดียวกัน อย่างน้อยๆรอยยิ้มของน้องๆก็เป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้เราทำความดีต่อไปค่ะ

  • Jittraporn Tharaamornrat

    ช่วยลูกนกตัวแดงๆที่ตกลงมาจากรัง ให้กลับขึ้นไปสู่รัง หาแม่นกได้อย่างปลอดภัย และอบอุ่นในอ้อมกอดของแม่นก ไม่ว่าจะสัตว์หรือคน ก็รักชีวิต และทุกชีวิตมีค่าเสมอ หากเราสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง ก็ไม่ควรรีรอที่จะทำความดีกันนะคะ

  • สมชาย ขุนสวัสดิ์

    อาสาสมัครใจ-คนค่ายสายแข็ง ร่วมแรง 100 คน 100 ฝาย @กาญจบุรี ถวายเพื่อพ่อหลวง กิจกรรม 2 วัน 1 คืน เป็นกิจกรรมที่ประทับใจและโหดมากๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆกับการสร้างฝายโดยใช้ระยะเวลาแค่2วัน เป็นอะไรที่บอกไม่ถูกทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันมากเพื่อการสร้างฝายครั้งนี้ ทั้งฝนก็ตกรถติดหล่ม แต่กำลังใจทุกคนเต็มที่ ที่จะสร้างฝายเพื่อพ่อหลวง ต้องขอขอบคุณมากนะครับที่ให้เขียนความประทับใจ อาจจะยาวไปหน่อยก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ

  • ปนิดา อันแสน

    คนไข้คนหนึ่งไม่มีญาติ จะเศร้าทุกคร้งเวลาเห็นคนไข้คนอื่นมีญาติมาเยี่ยม ฉันชวนคุยดูแล จึงรู้ว่าชอบทานหมูปิ้งมากก็เลยซื้อมาฝากทุกวันจนคนไข้กลับบ้าน หนึ่งปีผ่านไปขณะทำงานอยู่มีคนเดินเข้ามากอดแล้วพูดว่า"ขอบใจนะลูก" แล้วยื่นหมูปิ้งมาให้"ป้าซื้อมาฝาก"ฉันพูดอะไรไม่ออกได้แต่ดีใจกอดตอบป้า ดีใจที่เห็นคุณป้าแข็งแรง ดีใที่ป้านึกถึง รอยยิ้มอ้อมกอดของคุณป้าวันนั้นคือกำลังใจที่ดีมากสำหรับการทำงานและความดีต่อไป

  • ชมดาว ฤกษ์ธนกิจ

    ได้มีโอกาสร่วมโครงการ"สวนผักแปลงนี้เพื่อท้องน้องอิ่ม" จัดที่บ้านครูบุญชูเพื่อเด็กพิเศษ จ.ชลบุรี ซึ่งประกอบไปด้วยเด็กออทิสติก เด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา/ร่างกายจำนวนร่วม100คน กิจกรรมคือเนรมิตพื้นที่หลังบ้านคุณครูให้กลายเป็นแปลงเกษตรเพื่อปลูกผักแบบไร้สารพิษให้กับเด็กๆ จากนั้นต่อด้วยป้อนข้าวน้อง&เล่นเกมส์ วันนั้นมีเหตุการณ์ที่ทำให้เราได้เห็นมุมน่ารักๆของเด็กพิเศษ คือ เราได้ช่วยป้อนข้าวน้องชมพู่ ตอนแรกน้องยังไม่เปิดใจรับคนแปลกหน้า(รึว่าเราหน้าแปลก อิอิ)ป้อนเท่าไหร่น้องก็ไม่ยอมอ้าปากไม่ยอมกิน กว่าจะสื่อสารกันเข้าใจว่าน้องหิวน้ำ เราจึงไปหาน้ำมาให้น้องดื่มและยอมกินข้าวที่เราป้อนจนหมด จากนั้นต่อด้วยป้อนขนมเมื่อน้องเปิดใจและคุ้นเคยกับเราแล้วน้องจึงหยิบขนมมาป้อนเรากลับ พอเห็นพี่กินเท่านั้นแหละป้อนพี่ไม่ยอมหยุด ป้อนไปหัวเราะไปจนพี่เคี้ยวไม่ทัน คุณครูพี่เลี้ยงบอกว่าไม่เคยเห็นชมพู่เป็นแบบนี้ ปกติค่อนข้างก้าวร้าวและไม่ให้คนอื่นเข้าใกล้ ความสุขจากการเห็นรอยยิ้มเด็กๆวันนั้นประทับใจมากค่ะ อยากฝากไว้ว่าให้ปฏิบัติต่อเด็กพิเศษเหมือนเด็กทั่วไป เรียนรู้และเข้าใจและเปิดโอกาสให้น้องๆร่วมกิจกรรมและมีบทบาททางสังคมอย่างเด็กปกติแต่เพิ่มความใส่ใจและความระมัดระวังเป็นพิเศษค่ะ เด็กๆสัมผัสได้ถึงความรักความห่วงใยที่เรามีต่อพวกเขาแน่นอน ^^

  • อธิชา เปียทอง

    ทุกครั้งเวลาเดินข้ามสะพานลอยจากมหาวิทยาลัยจะไปขึ้นรถเมล์กลับบ้าน จะเห็นเด็กน้อยคนนึง เนื้อตัวมอมแมมนั่งหิวโซ ขอทานอยู่บนสะพานลอย แรกๆเราก็ให้เงินเค้าประจำ หลังๆเริ่มรู้สึกว่าเงินเอาไปเค้าก็อาจไม่ได้ไปใช้ ตั้งแต่นั้นมาเลยเปลี่ยนจากเงินเป็นขนม ของกินที่ทำให้เค้าสามารถอิ่มท้องได้ ซึ่งเราจะได้เจอเค้าในทุกวันตอนเย็น จนวันนี้เวลาผ่านมา 1 ปี เด็กน้อยคนนี้โตขึ้น และยังคงจำเราได้ในทุกครั้ง มีอยู่วันนึงที่ยายของเด็กน้อยคนนี้มานั่งอยู่บนสะพานด้วย วันนั้นเราเดินเข้าไป เด็กคนนี้หันไปที่ยายแล้วร้องเรียก

  • นุชรี ปัญจะผลินกุล

    โดยส่วนตัวเป็นคนกลัวเข็มและเลือดเป็นชีวิตจิตใจ แต่เมื่อได้ยินข่าวว่าคุณแม่เพื่อนมีความจำเป็นต้องใช้เลือดเพื่อการผ่าตัดด่วน ความกลัวยังคงอยู่ แต่ความอยากให้คุณแม่เพื่อนหายมีมากกว่า จึงสามารถก้าวผ่านความกลัวไปได้จึงรีบไปโรงพยาบาลและให้เลือดทันที แอบภูมิใจนิดๆ จึงมาแบ่งปันเรื่องราวค่ะ :)

  • ศุภกฤต ศีลดำรงชัย

    ประสบการณ์ที่ผมประทับใจ ผมได้เข้าร่วมกิจกรรมที่ได้พาน้องๆพิการทางสายตาไปเล่นน้ำทะเลถึงน้องจะมองไม่เห็นแต่ยังเป็นเด็กก็ต้องซนตามประสาเด็กปกติ น้องๆทุกคนดีใจได้เล่นน้ำทะเลเห็นน้องๆมีความสุขมีรอยยิ้ม เราเองก็มีความสุขไปด้วย การที่เราจะทำความดีเราไม่เลือกว่าจะเป็นคนหรือสัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกัน เพราะใจเราเป็นจิตอาสา

  • สิริกาญจน์ วานิชกิตติศักดิ์

    ประสบการร์ทำดีที่ประทับใจที่สุด คือ การเก็บน้องหมาข้างทางกลับบ้าน ในการเดินทางจากสมุทรสาครไปสะบุรี ระหว่างทางช่วงวังน้อย อยุธยา ได้เห็นลูกหมาตัวหนึ่งอยู่ข้างทาง (อยู่ระหว่างเกาะกลางถนน) คิดว่าน้องหมาตัวนี้คงตกมาจากรถคันหนึ่ง ถ้าเราไม่จอดรถ อุ้มน้องหมามา น้องคงไม่รอดแน่ๆ เพราะถนนแถวนั้น เป็นถนนใหญ่ ประมาณ 4 เลน น้องจะวิ่งกลับเข้าฝั่งไม่ได้เลย การช่วยชีวิตน้องหมา ก็ทำให้เรารู้ว่า การตกอยู่ในสภาะน่ากลัว ทำอะไรไม่ได้ พอมีคนมาช่วยเหลือ น้องหมาดีใจมาก ประสบการร์นี้ อาจจะเป็นเรื่องทั่วๆไป แต่สำหนับเรา ที่เรารักน้องหมาเป็นชีวิตจิตใจ การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ คือเป็นน้ำใจที่ยิ่งใหญ่มาก อย่างน้อยๆ เราก็ได้รู้ว่าน้องหมาตัวนี้ ก็ยังมีชีวิตรอดต่อไปได้ ขอบคุณค่ะ

  • นิพนธ์ รักประทานพร

    พบเห็นคุณยายหกล้มข้อเท้าพลิก ที่ป้ายรถเมล์ ก็เข้าไปช่วยดูแล และพาส่ง รพ. พร้อมทั้งโทรศัพท์แจ้งให้ญาติมารับ

ทั้งหมด 157 ภาพ, หน้า 6 จากทั้งหมด 8